ตอนที่ 1 บ้านมีคานแต่ไม่เคยรำคาญ
มีสถาบันเรื่องดวงจีนหรือฮวงจุ้ยของไทยอะไรสักอย่างนี้หละ ชื่อยาวมากบอกว่า การนอนเตียงแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการนอนใต้คานอย่างหนึ่ง ผมจึงขอออกมาเถียงในหน้าเพจผมดีกว่าว่า อย่าคิดอะไรบ้าๆแบบนั้นแลย หากยังไม่รู้ว่าความหมายที่เค้าห้ามคานพาดบริเวณห้องนอนมันแปลว่าอะไร เขาหมายถึง ตัวรับน้ำหนักของเพดานห้อง ไม่ได้หมายถึงวัตถุรูปร่างยาวๆที่พาดในห้อง ฉะนั้น คานไหนจริง คานไหนปลอม ต้องแยกแยะหน่อยท่านผู้ชม ฮ่าๆ
มีบทความล้่อเลียนเขาเขียน เขาบอกเป็นคำทิ้งท้ายในบทความที่โดนใจผมมาก แต่ขอแปลแบบแรงๆหน่อย เขาบอกว่า ถ้า้บ้านคุณนะมีเพดานเรียบๆสวยๆอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปอยากให้ได้กลิ่่นไอบ้านๆ ด้วยการไปหาไม้มาสามสี่อันพาดเป็นรูปคานออกมาหรอกนะ จากไม่มีเรื่องจู่ๆแส่หาเรื่อง การคิดว่านอนซ้อนเตียงแบบนี้เหมือนกัน จากไม่มีเรื่อง แส่หาเรื่องแท้ๆ แก้เคล็ดง่ายๆหลายคนบอกใช้เหรียญก็ได้ น้ำเต้าก็ได้ ของผมก็บอกว่าบางดวงมีข้อยกเว้นอยู่ใต้คานไม่เป็นไร แต่ยิ่งกว่านั้นคือว่า คิดเสียว่ามันไม่มีคานสิ ไม่ต้องไปสนใจ บางบ้านอยู่กับคานมาสองสามชั่วคน พอมารู้เรื่องฮวงจุ้ยบ้าๆพวกนี้กลับเกิดวิตก จนเป็นโรคนั่นนี่ตามที่หมอดูทัก เอ้อ ไม่มีเรื่องอะไรก็แส่หาเรื่องกันทั้งนั้น ฮ่าๆ
จากประสบการณ์ของผม ผมเจอบางคนมาเล่าว่า ทำงานมาปีสองปีไม่เคยเงยมองเพดานห้องทำงานตัวเองเลยว่ามีคานหรือไม่มีคาน เดินเข้ามานั่งโต๊ะ ทำๆงานทั้งวันก็กลับบ้านเป็นปรกติ พอมีกระแสฮวงจุ้ยแล้วมารู้เรื่องคานเท่านั้น ตกใจใหญ่ถึงขั้นโทรมาถามผม พี่ที่อยู่ที่ทำงานก็เห็นสนใจเรื่องนี้ จึงบอกอีกว่า ที่ทำงานนี้เฮี้ยนนะ ฮวงจุ้ยไม่ดี (นี่ขนาดคนพูดมันดูดวงจีนไม่เป็นแบบผมนะ ฮ่าๆ) ออกจากงานกันไปเยอะแล้ว ไอ้ตี๋คนฟังก็รู้สึกตกใจใหญ่โร่มาโทรศัพท์ถาม ผมขอวันเดือนปีเกิดเวลาเกิดมาแสร้งทำเป็นคำนวน แต่จริงๆก็คำนวนหละ กันเหนียว เพื่อความไม่ประมาท แล้วก็ลงสรุปตอบไปว่า นั่งใต้คานไปเล้ย ไม่มีปัญหาหรอก ที่ผ่านมาทำงานก็ไม่เคยเจ็งมีแต่คำชมไม่ใช่หรือ เขาตอบว่า ครับ ผมก็หัวเราะแล้วบอกว่า รู้คำตอบแล้วนะ ทีหลังอย่าตามแฟชั่นแบบโง่ๆอีก
ใจเรานั้นหละเป็นใหญ่ ดวงชะตาเป็นรอง ฮวงจุ้ยเป็นรองของรอง
อี่เต๋อ เอ้อซิ่ง ซานเฟิงสุ่ย คุณธรรมและจิตใจมาเป็นอันดับแรก ลักษณะนิสัยพฤติกรรมและชะตาชีวิตมาเป็นอันดับสอง ผืนดินที่อยู่จึงมาเป็นอันดับสาม
ภาษิตจีนกล่าวว่า เผินตี้ห่าว ปู้หรูซินตี้ห่าว ฮวงจุ้ยดี สู้จิตใจคนดีไม่ได้
By: ซินแสลั๋ว
Since: 2 ต.ค. 55 15:52:01
http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/384364_349544721802910_674199282_n.jpg
ภาพประกอบจาก facebook แนะนำหน่อย ผมใส่ในบทความไม่เป็น
By: chineseastrologer
Since: 2 ต.ค. 55 15:58:16
ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยอมรับว่าปวดกบาลกับสิ่งที่เรียกว่า "ฮวงจุ้ย" ที่สุด
ทั้งนี้เราหมายถึงพวกฮวงจุ้ยเชิงไสยศาสตร์ ที่หลอกล่อให้คนงมงายหลงเชื่อว่าทำตามแล้วจะ "ร่ำรวย"
เอาเข้าจริง ฮวงจุ้ยพูดเรื่องอะไร ฮวงคือลม จุ้ยคือน้ำ ก็คือการสร้างที่อยู่ให้รับพลังบวกของธรรมชาติ บางอย่างพิจารณาแล้วก็เห็นจริงว่าไม่ควรทำ เช่น หันประตูห้องนอนไปทางครัว เรื่องแบบนี้ใช้สามัญสำนึกคิดก็เห็นจริงตามนั้นว่าพึงหลีกเลี่ยง
เรื่องบางอย่างก็ต้องทำความเข้าใจว่า คติจนจีนโบราณจะมาใช้กับเมืองร้อนอย่างประเทศไทยไม่ได้ เช่น ห้ามประตูกับหน้าต่างชนกัน หรือห้ามหน้าต่างชนกัน ทั้งๆ ที่การให้มีช่องระบายอากาศหัวท้าย เป็นการกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของกระแสลม ทำให้บ้านไม่ร้อน
อย่างไรก็ดี หลักฮวงจุ้ยประเภทนี้ เรายังพอเข้าใจและรับได้ เห็นด้วยว่ามันเป็นประโยชน์ แม้จะไม่เข้ากับยุคสมัยและภูมิอากาศของคนไทยก็ตาม
By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 16:02:38
ผมรู้จักซินแสคนหนึ่งแต่ไม่สนิทนัก เป็นเพื่อนของพี่เขยผม
วันนึงแกติดรถพี่เขยมาที่บ้านผม ขณะเดินเข้าบ้าน
ได้ยินเสียงพี่เขยผมดังลั่นว่า
เอ็งอยู่เฉยๆ เลย น้องกูอยู่บ้านนี้เค้ามีความสุขกันดีอยู่แล้ว
ผมได้ยินยังแอบขำ
วันนึงแกไปเช่าตึกทำสำนักงานที่ทาวน์อินทาวน์แถวรามคำแหง
สำนักงานตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่งพอดีเป๊ะ ป้ายชื่อสีแดงใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม
เช่าอยู่ได้ไม่เกินปีก็ปิดกิจการไปเรียบร้อย
By: dansivilai
Since: 2 ต.ค. 55 16:08:44
โหวดให้ครับ
ปัจจุบัน หลักฮวงจุ้ย จะ ต้องมากับ วิทยาศาสตร์ครับ อะไรที่ทำแล้วดีมีเหตุผล ก็น่าทำ แต่ถ้าอะไรเป็นหลักที่บอกต่อๆ กันมา ก็อย่าไปสนใจเลยครับ บางทีมันเพี้ยนกันมาหลายช่วงอายุคนครับ (ดูง่ายๆ พาคนมาดูฮวงจุ้ย คนนึงบอกว่าดี คนนึงบอกไม่ดี สรุปจะเชื่อใครดีครับ)
ถ้าทำแล้วดีขึ้น แบบ เห็นผลเลยก็ทำ อะไรที่ไม่มีเหตุผลมารองรับว่าทำไปเพื่ออะไร บอกแต่ว่าไม่ดี ไม่ดี ก็อย่าทำมันเลยครับ
ผมชอบคำพูดของ ขงจื๊อครับ
ลิขิตฟ้า หรือ จะสู้มานะตน
ผมเชื่อว่าคนเราดวงมันจะไม่ดียังไง ไปอยู่ในสถานที่ที่มันฮวงจุ้ย ไม่ดียังไง แต่ถ้าขยัน ประหยัด อดทน ทุกอย่างก็จะดีเองครับ
By: nap62
Since: 2 ต.ค. 55 16:09:07
ความไม่มั่นใจและงมงายทำให้คนเราเข้าหาสิ่งที่อธิบายไม่ได้
ฮวงจุ้ยที่น่าประณามที่สุดคือฮวงจุ้ยประเภทอ้างสิ่งที่อธิบายไม่ได้ พูดง่ายๆ หากินกับความงมงายไม่มั่นคงของมนุษย์
เราเองไม่ได้เป็นศาสนิกชนในศาสนาใดเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเป็นเมืองพระพุทธศาสนา คนไทยโชคดีที่ได้มีโอกาสทำความเข้าใจหลักธรรมที่สอนให้คนเลิกงมงาย แต่อนิจจา…ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
พระพุทธเจ้าพยายามให้คนนับถือตนเอง ทำสิ่งดีก็ดี ทำสิ่งชั่วก็ชั่ว มนุษย์ควรชี้ชะตาชีวิตตามสิ่งที่ได้กระทำ หลุดพ้นจากมิจฉาทิฐิ และความเชื่อที่งมงาย พยายามติดสินบนเทพเจ้า พยายามไขว่คว้าควบคุมสิ่งที่อย่าถามเลยว่าจริงหรือเปล่า เอาแค่ว่าเป็นไปได้ที่จะมีหรือเปล่ายังยากจะตอบ
ทุกวันนี้หมอดูฮวงจุ้ยก็เลยหลอกลวงผู้คนด้วยการห้ามโ่น่นห้ามนี้ พยายามเผยแพร่ชุดความเชื่อที่หาเหตุหาผลไม่ได้ เช่น คนเกิดปีนี้ ต้องหันบ้านไปทางทิศนี้ … คนที่เชื่อและยึดติดกับฮวงจุ้ยก็เลยทำบ้านตัวเองออกมาพิกลพิการ แทนที่จะหันหน้าบ้านสวยๆ หาถนน ดันหันสันบ้านเข้าถนน แบบนี้ไม่รู้จะเรียกว่างมงายก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
เอาเป็นว่าอยู่มาจนบัดนี้ เป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องฮวงจุ้ย เรื่องดวง โชคชะตาราศีอะไรทั้งนั้น ก็คิดว่าถ้าคิดจะเอาใจเทวดาพลังงานฟ้าดินมาก ก็เสียเวลามาก แถมยังผลให้สิ่งเหล่านั้นมาครอบงำมีอิทธิพลเหนือตัวเอง ถ้าไม่ถือมาก เทวดาและพลังงานฟ้าดินอาจจะไม่ค่อยอุ้มชูเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้มายุ่มย่ามครอบงำชีวิต
ก็เลือกเอาแล้วกันว่าอยากมีชีวิตอยู่แบบไหน
By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 16:12:36
ที่เค้าไม่ให้นอน หรือนั่งทำงานใต้คาน เนี่ยวิทยาศาสตร์อยู่นะครับ เพราะถ้าหากโครงสร้างของบ้านทรุดลงมา แล้วเราอยู่ใต้คานเนี่ยแทบไม่มีโอกาสรอดเลย
http://www.gened.chula.ac.th/cms/index.php?id=196&L=1
By: false
Since: 2 ต.ค. 55 16:23:54
ที่มันวุ่นวะวุ่นวายแบบนี้ เพราะหมอดูฮวงจุ้ยที่รับดู ส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนจากครู หรือส่วนใหญ่ไปเอามาจากเวปไซต์ที่เขียนๆกัน เขียนเล่าต่อกันมาก็เติมนั่นนิด นี่หน่อย ก็เลยผสมปนเปไป เรื่องการประยุกต์ฮวงจุ้ยกับสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศผมยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด พอๆกับคนชอบถามว่า เอาดวงจีนไปอ่านคนไทย เอาดวงไทยไปอ่านคนฝรั่ง มันจะแม่นหรือ ตอบได้จากการศึกษา และจากโหราจารย์ไทยผู้ทรงภูมิว่า แม่น ฉะนั้น วิชาจริงผมเชื่อว่ายังมีความเป็นสากลใช้ได้ทุกที่อยู่ เพราะคนเราชอบคิดถึงเมืองจีนเป็นเมือง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ครับ พวกนี้มันหนาว อยู่ติดรัสเซีย อากาศแบบยุโรป ท่านลืมมองกวางตุ้งกวางเจาที่ติดทะเล ลืมบอกทิเบต ลืมมองยูนนานที่สภาพเป็นร้อนชื้นแบบบ้านเราครับ เพราะประเทศเขากว้างมาก
พอมาถึงประเด็นประตูหน้าต่างตรงกัน และมันไม่ดีในทางฮวงจุ้ย แต่เมืองร้อนๆอย่างเราถือว่าดีนั้น ต้องมาเถียงกันแบบบทสนทนานาย เอ กับ นายบี ว่า
นายเอ มองฮวงจุ้ยแบบวิทยาศาสตร์ จะบอกว่า การที่ห้ามประตูหน้าต่างตรงกัน ไม่ใช่เพราะกันลมเข้าออกอย่างเีดียว หากแต่ว่าจะทำให้บ้านไม่มีเนื้อที่ส่วนตัว พลังงานทั้งลม ทั้งคน วิ่งเข้าข้างหน้า ออกข้างหลังได้ปร๊าดเดียวหมดเหมือนคนท้องเสีย อยากจะให้มีอากาศไหลเวียนทั่วบ้าน เพราะถ้าประตูตรงกันซะ อากาศย่อมผ่านทางตรงไปมาหากัน และสำรวจดูเรือนไทย แม้นกระทั่งภาคเหนือหรือกลาง ประตูใหญ่ทางขึ้นเรือน ก็จะไปตรงประตูหลังเรือนนะครับ จริงๆแล้ว หาเรือนที่มีประตูหลังยากด้วยซ้ำ โดยมากเข้าออกทางเดียวหมด เทียบกับโบสถ์วิหารก็เช่นเดียวกัน ทางเข้าเป็นประตูใหญ่ แล้วมีหน้าต่างระบายๆออก ให้ทั่วถึงพื้นที่ ยังมีหลังคาสองชั้นระบายออกอีก เพราะฉะนั้นผมยืนยันว่า ประตูตรงกันแม้นลมผ่าน แต่การระบายอากาศไม่ทั่วทั้งตัวบ้าน เพราะไม่เกิดการสะสมอากาศ เหมือนผ่านมาก็ผ่านไปครับ ลมเพเอยลมพัด
พอนายบี เป็นนักโหราศาสตร์จีนมือฉมัง ก็น่าจะตอบด้วยเหตุผลว่า ชี่ หรือคิดง่ายๆว่าลม แต่มีความหมายเยอะกว่าคำว่าลม ที่ดีนั้น ต้องเป็นพลังที่มีการหมุนวนเสียหน่อย คือเข้ามาเยอะๆ ชะลอตัวในบริเวณหนึ่ง และพัดออกไป ไหลเวียนเรื่อยๆ ลองจินตนาการเหมือนร่างกายคนเรา ถ้าคุณดื่มน้ำเข้าปากปุ๊บ:-)ฉี่ออกฉับพลัน ร่างกายดูดซึมไม่ทันหรอก แม้นจะหิวน้ำแค่ไหน ซัดไปเป็นขวดๆ ก็ไม่ฉี่ออกทันที นี่เป็นกลไกธรรมดา ต้องรอสักพักจะปวดฉี่ เช่นกัน ฉี่หรือชี่ก็เอามาเปรียบเทียบได้ ฮ่าๆ การที่เราทำปากทางเข้า กับทางออกตรงกันเป็นการทำให้การชะลอตัวของชี่เกิดได้ยาก ทำให้การหมุนเวียนทางพลังงานเกิดได้ยากอีก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องประตูตรงกัน ผมก็ไม่อยากให้ไปคิดมาก เพราะท่านลองไปดูกูเกิ้ลเอิร์ทนะ แล้วเลือกดูจังหวัดเชียงใหม่ ขอบอกว่าประตูเมืองตรงกันครับ เหนือตรงใต้ ออกตรงตะวันตก เอ่อ ถ้ามันไม่ดี เขาจะทำหรือไม่ หลายเมือง และหลายบ้าน – วัง ก็ลักษณะนี้
แล้วมีคำถามหลายคำถามจากที่เจอว่า ประตูบ้านตรงกัน เขาบอกเก็บเงินไม่อยู่ ผมก็ตอบว่า ถ้าไม่สบายใจแล้วอยากย้ายก็ย้ายได้ แต่บ้านอาจารย์ผมประตูตรงกัน บ้านผมก็ประตูตรงกันนะ ไม่เห็นตาย พอดีผมเก็บเงินไว้ในกล่อง + ออมสิน ไม่ได้เก็บตรงประตูมั้ง เงินเลยไม่รั่ว ฮ่าๆ ทำไงดีถ้าประตูตรงกัน ก็ปิดมันสักบาน จบแล้ว ดื้อๆแบบนี้หละ เอาเวลาคิดมากเรื่องประตูไปทำมาหากินดีไหม ปล.ฮวงจุ้ยถ้าท่านศรัทธาย่อมเกิดผลจริงเพราะเป็นของจริงที่พิสูจน์มานานหลายพันปีแล้ว แต่บางเรื่องท่านต้องไปหาที่มาที่น่าเชื่อถือและเป็นเหตุเป็นผลแล้วเชื่อ และหากความเชื่อนั้นจะได้ผลดีมากกว่าเสียก็ทำ ได้ผลเสียมากกว่าดีก็อย่าสนใจเลยดีกว่า
ฝรั่งมันเคยทำคลิปล้อเลียนไว้ ลองไปหาในเวปยูทูป มันแกล้งเชิญอาจารย์มาวาดผังบ้านมัน สามท่าน แล้วลองจัดๆ เพื่อนคนหนึ่งสั่งคนงานจัด อีกคนควักล้วงกระเป๋าสตางค์มาเปิดดู จัดรอบแรก เปิดดูมันบอกเพื่อนมันว่า เงินมีเท่าเดิมหวะ รอบสอง รอบสาม ก็เปิดออกมาก็บอกว่า ก็มีเท่าเดิมหวะ มันหัวเราะแล้วบอกว่า ไหนฮวงจุ้ยบอกจัดแล้วเรียกทรัพย์ ไม่เห็นเข้ากระเป๋ามันสักแบ้งค์ แม้นว่าเรื่องนี้จะเป็นความไม่เข้าใจปรัชญาที่ลึกซึ้งของจีนและพลังที่แท้จริงของฮวงจุ้ย แต่ผมว่ามันเตือนสติพวกซินแสบ้าๆบอๆได้ดีหวะ
By: chineseastrologer
Since: 2 ต.ค. 55 16:25:29
มิได้ค่ะ ดิฉันหมายถึงประตูตรงกับหน้าต่าง ไม่ใช่ประตูกับประตู เรามองสองเรื่องนี้ต่างกันนะคะ ในกรณีบ้านของดิฉัน เหตุที่ต้องมีหน้าต่างตรงกับประตูเพราะต้องการเพิ่มแสงสว่างให้ส่วนหลัง ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ และทำให้บ้านดูไม่ทึบ
และเหตุที่ำทำแบบนี้ เพราะบ้านหลังปัจจุบันมีทางระบายอากาศด้านหลังในทิศทางเดียวกับประตู ตอนกลางวันถ้าเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ ลมพัดผ่านดีมาก ใครมาก็ทักว่าบ้านเราไม่ร้อน ทั้งๆ ที่เป็นทาวเฮาส์ แ้ต่หลังอื่นที่ปิดด้านหลังทิ้งไปจะร้อนมาก
By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 16:34:34
ฮวง แปลว่า ลม
จุ้ย แปลว่า น้ำ
มันคือการทำให้เข้ากับหลักธรรมชาติ
อย่างหน้าบ้านให้หันทิศใต้ โอเค รับได้ เพราะลมเข้าหน้าบ้าน
เป็นหลักธรรมชาติจริง ๆ
ห้ามเอาเตาไฟหันหน้าไปทางทิศใต้ ก็พอรับได้
แต่สมัยนี้ครัวมันมีกำแพงล้อมรอบหมด
เพราะฉะนั้นไอ้ที่ว่าลมจะพัดเตาไฟแล้วมาโดนคนทำครัวนั้นก็ยากขึ้น
หรือไม่บางบ้านก็ใช้เตาไฟฟ้าไปแล้วในสมัยนี้
แต่บางอย่างที่ให้ทำ ก็พยายามนึกให้ลงลึกถึงแก่น
ก็ยังหาคำตอบไม่เจอว่า มันเข้ากับหลักธรรมชาติตรงไหน
By: ระยิบระยับ
Since: 2 ต.ค. 55 16:34:42
ปี: ติงเหม่า เดือน: ปิ่งอู่ วัน: ปิ่งเฉิน เวลา: อู้ซวี
ดวงด้านบนนี้ผมเอามาเป็นตัวอย่างประกอบว่า แม้นแต่เรื่องฮวงจุ้ยในโหราศาตร์จีนตามวิชาจริงๆก็มีการยกเว้นเอาไว้ เช่นคนคนนี้ เมื่ออ่านออกมาแล้วย่อมตอบได้ว่า คานทั้งหลายที่อยู่บนหัว ไม่มีผลใดๆกับเขา ไม่ต้องกังวล อีกอย่างถ้าเป็นคาน ที่ทำงาน แค่ลุกๆ นั่งๆ ไม่อยู่กับที่บ่อยก็คลายผลได้เยอะ ทุกเรื่องมีการปรับเปลี่ยนและการยกเว้นได้หมด ไม่ใช่ของตายที่ต้องตายไปกับคนคิดเสมอไป เอามาโพส เดี๋ยวประเด็นความตั้งใจผมทีแรกจะพูดเรื่องฮวงจุ้ยดีๆ ไปๆมาๆจะกลายเป็น ร่วมวงจวกฮวงจุ้ยกันไปใหญ่
By: chineseastrologer
Since: 2 ต.ค. 55 16:37:03
จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี)
ฮ่าๆ เข้าใจได้ ยิ่งถ้าเป็นบ้านแบบทาวเฮาส์ ยิ่งหลักเลี่ยงประตูหลังตรงประตูหน้าแทบไม่ได้เลย แต่หลายบ้านมันก็รวยเอาๆนะ
By: chineseastrologer
Since: 2 ต.ค. 55 16:39:08
จากคุณ : ระยิบระยับ
คืนนี้ ถ้ามีเวลา ผมจะออกมาตอบให้คลายกังวลและที่สงสัยครับ
By: chineseastrologer
Since: 2 ต.ค. 55 16:40:06
#9 คุณระยิบระยับ
ดิฉันโดนบังคับให้หันบ้านไปทางทิศตะวันตก และหันเตาไฟไปทางทิศตะวันออกค่ะ คิดแบบบ้านแล้วมึนตึ้บ แถมถ้าหันแบบนี้ บ้านดิฉันจะต้องหันเข้ากำแพงบ้านคนอื่น แถมจากแบบบ้านที่ออกแบบเสร็จแล้ว ยื่นกู้แบงค์เรียบร้อย ถ้าหันไปทางทิศตะวันตก แปลว่าห้องนอนของดิฉันต้องเจอแดดเต็มๆ
ก่อนจะทำมาค้าคล่องดังว่า ดิฉันคงเกลียดบ้านหลังนี้พิลึก
คิดสาระตะแล้ว งานนี้ยอมทะเลาะ หันลงใต้เหมือนเดิมตามที่ตั้งใจไว้ (เพราะหันทิศอื่นแล้วไม่เหมาะสม) ส่วนเตาไฟ เรายอมได้ เพราะว่ามันไม่กระทบอะไรเท่าไหร่ ถึงมันจะทำให้ครัวเราประหลาดไปหน่อยก็เหอะ แต่ก็เก๋ดี
ซินแสคนนี้เป็นอาจารย์ของซินแสชื่อดัง ส่วนตัวแกดังหรือเปล่านั้นดิฉันไม่ทราบ (ขออภัยที่ไม่ขอเอ่ยนาม) เอาเป็นว่าญาติผู้ใหญ่ของดิฉันซึ่งท่านเป็นยกที่ดินที่ดิฉันสร้างบ้านให้นี่แหละเชื่อถือเป็นจริงเป็นจัง กว่าจะทะเลาะกันเสร็จจนท่านประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับบ้านของดิฉันอีกแล้วก็ทำเอาผมดิฉันหงอกไปหลายเส้นเหมือนกัน 😀
By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 16:49:13
มาใส่รูปให้
By: ก้นกบ
Since: 2 ต.ค. 55 16:50:10
เอ้าบ่นมานาน ขออภัยคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ จะสงบปากสงบคำ ฟังเจ้าของกระทู้เล่าต่อนะคะุ:)
By: AntiSpam (อันตราคนี)
Since: 2 ต.ค. 55 16:52:25
555 ชอบใจกระทู้นี้จัง เบื่อลูกค้าที่พ่วงซินแสมาด้วยที่สุดในโลกเลย
By: GniN
Since: 2 ต.ค. 55 17:07:21
อดีตเจ้านายผมคนหนึ่ง ไปเรียนฮวงจุ๊ย มาหมดไปเกือบแสน
กับหลายซินแส
ลูกค้าเจ้าไหนชอบฮวงจุ๊ย แกว่าเป็นฉากๆ อยากให้ออกแบบตามฮวงจุ๊ย
แนะนำให้ได้เลยพร้อมราคา ว่าจะเอาของอาจารย์ท่านใด
ทุกวันนี้ บ้านหลังทีออกแบบตามฮวงจุ๊ยหมดไปเกือบแสน เฉพาะค่าซินแส
ขายต่อไปหลายปีแล้ว ผัวเมียทะเลาะกัน
ส่วนเจ้านายผมก็ เจ๊ง ปิดบริษัท ไปนานแล้วเช่นกัน
เพราะแกเชื่อว่า บริิษัทเจ้าของหมู่บ้านที่แกไปรับเหมา โฉลกตรงกับแก
ทั้งๆที่ ตาคนนี้ ฉายาดังไปทั่วเรื่อง เบี้ยวเงิน
.. เชื่อก็ดีครับ คนจะได้มีงานทำ ไม่ไปปล้นชิงใคร
By: tzu149
Since: 2 ต.ค. 55 17:39:34
ผมบังคับคนที่บ้านทุกคนเลยว่าห้ามไปศึกษา+เรียนเกี่ยวกับฮวงจุ้ยโดยเด็ดขาด! ไม่ได้ลบหลู่แต่ไม่อยากรู้ เพราะถ้ารู้ก็จะไม่สบายใจต้องมากังวัลนู่นนี่ ทุบไอ้นู่น ปรับไอ้นี่ อยู่เฉย ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว
By: นัยแว่น
Since: 2 ต.ค. 55 17:45:04
…ลองย้อนกลับไป 2,500 ปีที่แล้ว สมัยขงจื้อ
…รูปแบบสถาปัตยกรรมของจีน ยังเป็นแค่เรือนผูก (ชาวบ้าน) หรือ ก่ออิฐ-หิน (เจ้าสัว) ส่วนโครงสร้างหลังคาก็เป็นไม้+กระเบื้องจีน size เล็ก การต่อโครงสร้างอาศัยการเข้าไม้ธรรมดา+การผูก ยังไม่มีตะปู หรือเหล็กประกับ
…และยังไม่มีการใช้เหล็กรูปพรรณ มาทำอาคาร (ยิ่งพวกคอนกรีตเสริมเหล็กให้ลืมไปได้เลย)
…จีน เป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดประเทศหนึ่ง และไหวในระดับใหญ่ด้วย
…แน่นอนว่า แค่แผ่นดินไหวระดับต้นๆ โครงสร้างหลังคาหรือพื้นชั้นสองที่เปราะบางขนาดนั้น ไม่มีทางเอาอยู่
…และคนที่ตายจำนวนมาก เกิดจากคานไม้ขนาดใหญ่ (คานหลัก) หล่นทับ
…มันก็เลยกลายเป็นที่มาของ การห้ามไม่ให้วางเตียง (หรือโต๊ะทำงาน) ไว้ใต้คาน (สมัยนั้นยังไม่มีสถาปนิก มีแต่ซินแส)
…แต่ประเทศไทย ยุค 2012
…เรามี คานคอนกรีตเสริมเหล็ก, อะเสเหล็ก การเชื่อมต่อแบบ rigid
…ที่สำคัญที่สุด ประเทศเราไม่เคยมีประวัติแผ่นดินไหวระดับอาคารวิบัติมาก่อน (มากสุดก็แค่ของใช้หล่น ขยับได้)
…และถ้ามันไหว ถึงขั้นทำให้อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กวิบัติได้ (ระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไป) คุณจะนอนใต้คาน หรือ ใต้ slab, ใต้พื้นคอนกรีตสำเร็จ คุณก็ไม่รอดอยู่ดี
…ใครยังเชื่อตำราจีน สมัย 2 พันปีก่อน ที่เขียนบนสถานที่มีแผ่นดินไหวรุนแรง, อากาศหนาว, กันดารน้ำ ฯลฯ
…ก็ตามสบายครับ
…ส่วนผม ขอใช้ตำราไทย ภูมิปัญญาปู่ย่าตายาย ที่สอนให้สู้กับน้ำท่วม, ความร้อน+ฝนชุก ดีกว่า
By: sungod
Since: 2 ต.ค. 55 18:20:52
อดีตนายจ้างเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมากๆ
ทุกปีจะต้องมีสารพัดสิ่งของมาติดตามมุมใดมุมหนึ่งห้อง หรือโต๊ะของพนง.
ทำให้สงสัยมากว่า ในสถานที่เดิมๆ
ทำไมต้องจ้างซินแสมาดูทุกปี
By: areewan
Since: 2 ต.ค. 55 21:55:10
ปี: ติงเหม่า เดือน: ปิ่งอู่ วัน: ปิ่งเฉิน เวลา: อู้ซวี
ปี: เดือน: วัน: เวลา:
ใช่ป่าวหว่า? ไม่คุ้นสำเนียงจีนกลาง ลองเดาดู
By: umibozu
Since: 3 ต.ค. 55 00:19:34
อ่านความคิดเห็นที่เกี่ยวกับผู้บริหารแล้วขำแบบปวดใจค่ะ
รุ่นพี่ที่ทำงานเก่งมาก ทำงานดี ริเริ่มงานใหม่ๆ แต่ตกอับ
เพราะผู้จัดการโรงงานเห็นว่าเกิดปีกุน ผู้จัดการเกิดปีมะเส็ง
เป็นอริกัน ชีวิตหนอชีวิต มันเป็นผู้บริหารได้อย่างไง 5555
By: อ้อมกอดภูเขา
Since: 3 ต.ค. 55 10:29:21
เดินสายกลางค่ะตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้
เชื่อในสิ่งที่เราหาเหตุผลมาประกอบได้เท่านั้น
By: manu never die
Since: 3 ต.ค. 55 11:32:39
จากคุณ : ระยิบระยับ
เรื่องห้ามเอาเตาไปไว้ทิศใต้ซึ่งเป็นทิศธาตุไฟนั้นหรอกคุณ จริงๆมันก็มีต้นตอนะ ถ้าคุณลองกางแผนที่โลกออกมา ด้านบนส่วนใหญ่จะอากาศหนาว ด้านล่างจะอากาศร้อน แบบบ้านเราๆท่านๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้ของที่ต้องใช้ความร้อนไปอยู่ที่ร้อนมากเกินไป เพียงแต่ว่าพวกนี้มันเหมือนเสื้อโหล ไม่ใช่เสื้อสั่งตัด ฉะนั้น มันก็มีประเด็นแย้งในตัวเองให้กังขา ฮวงจุ้ยแบบกึ่งสำเร็จรูปที่เผยแพร่ตามเวปโดยไม่ปรับให้เข้ากับดวงชะตาถือเป็นของเถื่อน เชื่อไม่ได้ จริงๆผมมาโพสเพื่อจะมาไขข้อข้องใจตามภูมิรู้พอที่จะมี เพื่อให้วิชานี้มันบริสุทธิ์ขึ้นมาไม่ดูโง่งมงายแบบที่หลายคนหลง ทั้งตัวซินแส ทั้งตัวคนดูดวง หลงกันไปเรื่อย คิดเอาเจตคติของตัวเองใส่ลงไปในวิชาจนวิชาบิดเบือนไปมาก
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 14:58:13
จากคุณ : AntiSpam (อันตราคนี)
ผมชอบแนวคิดคุณนะ จริงๆมันใช่และโดนมากๆหละ เพียงแต่ว่าในบางที ถ้าเราเข้าอยู่ในชั้นเรียนวิชาคหกรรมทำครัว เราก็ไม่ควรจะไปพูดเรื่องปรัชญาท้องอิ่ม ใช่ไหม พอจะนึกออกไหม สมมติว่าทุกคนอยากจะมาเรียนรู้เปิดหูเปิดตาเรื่องทำครัว เราก็ลองสักหน่อยที่จะมาร่วมวงวิพากษ์ หาประสบการณ์มาแบ่งปันแบบที่คุณทำนั่น ดีมากมาก แต่เราทำอาหารเราจะไปคิดถึงว่า เอ้ มนุษย์เกิดมาทำไมหนอ ทำไมต้องบริโภคมาก เราบริโภคแต่พอประมาณมือเย็นไม่ทานรักษาศีลแปดดีหรือไม่ คือเดี๋ยวประเด็นมันจะยาวและเลยขอบเขตกลายเป็นธรรมะไปเสีย ผมอยากยกยอดเรื่องพวกนี้ไปในห้องศาสนา แม้นว่ามันจะเกี่ยวข้องกับชีวิตคนก็นั่นนะ เหมือนอย่างห้องนี้ที่ถ้าท่านพูดเรื่องบ้านสวย ห้องสวย การตกแต่งบ้านก็เข้ากับหัวข้อ แต่ถ้าเปลี่ยนไปสนทนาเรื่อง มงคลชีวิต ข้อที่ว่า อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม เราก็แตกประเด็นกันไปได้ต่อ ไม่ได้ห้ามคุณแสดงความเห็นนะ แต่เรามาสุมหัวกันเป็นเรื่องๆไปเถอะ ไม่งั้น งง แน่ๆ
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 15:02:27
จากคุณ : tzu149
ผมยังเชื่อว่า ตัววิชาฮวงจุ้ยมีความจริงหลายเรื่องครับ ใช้ได้ดี เพียงแต่ว่ามีลักษณะคล้ายๆกับกฎหมาย คือวิชาเป็นอาวุธ จะดีหรือไม่ดี หรือไ้ด้ประสิทธิภาพย่อมขึ้นอยู่กับฝีมือจอมยุทธแต่ละท่าน ผมจึงอยากให้ทุกๆคนในห้องนี้ และทุึกๆคน จับจ้องมองวิเคราะห์ที่ตัวซินแสผู้ใช้เป็นอันดับแรกครับ หลายวิชาเป็นของดี แต่คนสมัยนี้เอาไปใช้แบบไม่รู้จริงจนเสียหายเยอะมาก
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 15:05:06
จากคุณ : sungod
มีประเด็นความน่าสนใจครับ แต่สมัยนี้บ้านไทยเป็นบ้านแบบยุโรปไปเยอะ หาเรือนไทยแทบหาได้ยาก แบบนี้จะมีผลดีร้ายประการใด และความเชื่อแบบไทยภายใต้บ้านแบบยุโรป แม้นว่าจะอยู่ในภูมิอากาศแบบประเทศทางแถบนี้
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 15:10:52
จากคุณ : umibozu
แบบนั้นถูกแค่สามแถวแรกครับ แถวสุดท้าย อู้ซวี ต้องเป้น จอ ไม่ใช่ ชวดครับ
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 15:12:02
จากคุณ : อ้อมกอดภูเขา
เรื่องชงนี่ก็พิสูจน์ภูมิรู้ของผู้ใช้วิชา เหมือนที่ผมพูดไปตอนต้นว่า วิชาเปรียบเหมือนกระบี่ดี แต่จอมยุทธิ์ก็ต้องเยี่ยมยุทธ ไม่งั้นกระบี่ก็กลายเป็นของไม่มีค่าไปเสีย เรื่องชง จริงๆหลายคนเข้าใจผิดกันไปมากมาก คิดว่าชง คือไม่ดี อยู่กันไม่ได้ แตกหักเสียหาย ความคิดเห่ล่านั้น ถูกต้องแต่มีข้อยกเว้นเยอะมากที่ธรรมดาทั่วไปไม่ทราบกัน
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 15:13:48
เรียน : คุณchineseastrologer
อยากให้ผู้บริหารท่านนั้นเข้ามาอ่านจังเลยค่ะ ตอนนี้ตามโต๊ะทำงาน
ของท่านผู้จัดการเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ เต็มห้องไปหมดเข้าไปคิดว่า
เป็นแหล่งจำหน่ายตุ๊กตาสัตว์ไปแล้ว ความคิดของท่านลามไปถึงท่าน
ผู้น้อยที่ไม่มีโอกาสได้พูด ต่างหาสัตว์ต่างๆมาวางกันเต็มโต๊ะ เห็นแล้ว
เหนื่อยใจค่ะ
By: อ้อมกอดภูเขา
Since: 3 ต.ค. 55 15:36:31
จากคุณ : อ้อมกอดภูเขา
ถามวันเดือนปีเกิดเวลาเกิดเขามา ถ้าทำได้นะ เีดี๋ยวผมจะพิมพ์บางประโยคไปให้คุณปริ้นให้เขาอ่าน รับรองตาสว่าง ฮ่าๆ
By: chineseastrologer
Since: 3 ต.ค. 55 15:55:14
555 ขอบคุณมากค่ะ สงสัยตอนนี้จะชงหนูแทนแล้วล่ะค่ะ
By: อ้อมกอดภูเขา
Since: 3 ต.ค. 55 23:32:23