วางแผนปิดบ้านภายใน 5 ปี ตึงเกินไปไหมครับ?าง

กำลังจะซื้อบ้านราคา 2,040,000 บาท
ดาวน์ 410,000 บาท

เข้าธนาคาร 1,630,000 บาท

ผมมีเงินเก็บอีกประมาณ 300,000 บาท

เงินเดือนหลังหักภาษีและประกันสังคม 35,000 บาท

คิดว่าน่าจะผ่อนราวๆ 11,000-12,000 บาท

ดังนั้นผมจะเหลือใช้เดือนละ 23,000-24,000 บาท

ผมวางแผนจะเก็บเงินให้ได้เดือนละ 15,000 บาท, ถ้าผมเก็บเงิน 5 ปีเท่ากับ 60 เดือน*15,000=900,000 บาท

โบนัสได้ราวๆ 60,000-80,000 บาทโดยเฉลี่ย ถ้าคิดรวม 5 ปี ก็คงได้ราวๆ 300,000-400,000 บาท

รวมเงินเก็บทั้งหมดภายใน 5 ปีจะได้ทั้งหมด 1,500,000-1,600,000 บาท คิดว่าคงปิดได้ไม่ยาก
เพราะดอก 3 ปีแรกน่าจะถูก คงตัดเงินต้นได้ราวๆ 150,000 บาทแล้ว

แต่ปัญหาคือจะใช้เงินเดือนละ 8-9,000 บาทได้ไหม?

บริษัทมีบ้าน,น้ำ,ไฟ ให้ใช้ฟรีครับ กินข้าวโรงงานมื้อละไม่เกิน 30 บาท มีรถรับส่งถึงหน้าบ้าน
แต่ปกติผมจะใช้เงินวันละไม่เกิน 200 บาท

เจ็บป่วยต้องไปใช้ประกันสังคมเอา
อดทนอีก 5 ปีก็อิสระ

หมายเหตุ ผมมคเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสะสมถึงปัจจุบันได้ 600,000 แล้วครับ
อีก 5 ปีน่าจะถึงล้าน เพราะตอนนี้หัก 10% เต็มแล้ว

By: younggun
Since: 21 ต.ค. 55 19:44:48

12 thoughts on “วางแผนปิดบ้านภายใน 5 ปี ตึงเกินไปไหมครับ?าง

  1. admin Post author

    ผมเองก็เคยคิดแบบคุณนะครับ แต่วันเวลาผ่านไปอะไรก็ไม่แน่นอน มีค่าใช้จ่ายที่ได้คาดคิดผ่านเข้า (ผ่าตัด หาหมอ ค่าประกันรถ เปลี่ยนยางรถ พ่อป่วย ตกงาน และอื่นๆอีกมากมาย) ตามที่คุณแจ้งมาผมว่าปิดภายใน 8 – 10 ปี ก็โอเคแล้ว เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง ผ่อนสบายๆ ไม่ต้องกดดันตัวเอง 🙂

    By: T Matteo
    Since: 21 ต.ค. 55 20:22:07

  2. admin Post author

    ลองสำรองค่าใช้จ่ายป่วย+ตกงาน+ผ่อนบ้าน ไว้ซัก6เดือน
    แล้วโปะไปเลยครับ แผนคุณดีนะ แต่ต้องระวังเหตุฉุกเฉินด้วย

    จะไหวเหรอ บีบตัวเองไปนะผมว่า
    คุณต้องลองทำดูแล้วจะเข้าใจ

    ผมเคยลองสุดท้ายก็เลิกเพราะ
    เรื่องฉุกเฉินเข้ามาบ่อยเหลือเกิน ไฟไหม้ห้องชั้นบน
    รถชนต้องไปส่งซ่อม ค่าประกันต่างๆ …..

    ตอนนี้มีเท่าไรก็โปะ หลังสำรองเหตุฉุกเฉิน

    By: NN
    Since: 21 ต.ค. 55 20:39:33

  3. admin Post author

    ผมก็ทำแบบคุณครับ 4 ปีก็หมด เพราะปีแรกๆ อาศัยดอกเบี้ยถูก ตัดต้นให้มากๆ พอปีท้ายๆ ต้นเหลือน้อย ดอกเบี้ยจะน้อยตาม จ่ายไปจะตัดต้นซะมาก ปีท้ายๆ สามารถลดการส่งได้ถ้าอยากมีเงินสดในมือมากขึ้นครับ ต้องลองคำนวนดู
    ต้องประหยัด ตัดต้นให้เยอะตอนปีแรกๆ ที่ดอกเบี้ยต่ำๆ ครับ

    By: Tee (TBDLTee)
    Since: 21 ต.ค. 55 20:42:07

  4. admin Post author

    ทำไปเลย 25 ปี ใช้สิทธิให้เต็ม จะำทำให้คุณมีภาระจ่ายรายเดือนน้อยลงมาก ง่ายต่อการอนุมัติ ถึงแวลาจ่าย คุณจะจ่ายมากขึ้น เป็นสิทธิของคุณ จ่ายโปะไปได้เลย แต่อย่าให้หมดก่อน 3 ปีตามสัญญาละกัน

    By: เกมส์123
    Since: 21 ต.ค. 55 21:13:39

  5. admin Post author

    ปกติดอกเบี้ยแบงค์เค้าคิดรายวัน

    เราว่าถ้าโปะเพิ่มเดือนละนิดหน่อยทุกเดือนน่าจะไม่ตึงเกินไปนะคะ

    เราก็ทำแบบนี้อยู่เหมือนกันค่ะ

    By: หนวกบอดใบ้
    Since: 21 ต.ค. 55 21:35:04

  6. admin Post author

    อย่าลืมบวกค่าเงินเดือนขึ้นด้วยค่ะ  เช่นนั้นต้องหมดก่อน 5 ปี คริๆ

    By: nusarathi
    Since: 21 ต.ค. 55 21:54:02

  7. admin Post author

    เผื่อฉุกเฉินบ้าง นอกนั้นก็โปะเลยค่ะ

    By: noo_pizza
    Since: 21 ต.ค. 55 22:59:29

  8. admin Post author

    มีคำแนะนำให้เล็กน้อย หากคุณนำเงินโปะบ้านมากไปก็จะเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง
    หากเก็บสำรองไว้เฉยๆ ดอกเบี้ยเงินกู้ก็จะเพิ่มขึ้น
    ตามที่เข้าใจดอกเบี้ยเงินกู้ช่วงแรกต่ำ ใกล้เคียงกับเงินฝากหลายแห่ง
    ให้นำเงินเก็บไปฝากบัญชีพิเศษโดยอาจแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เงินฝากไม่ประจำที่ได้ดอกเบี้ยสูง ประมาณ 3%
    เพื่อสำรองยามฉุกเฉิน และอีกส่วนไว้ฝากประจำ หรือซื้อ LTF จะช่วยลดหย่อนภาษี 10% และจะถอนได้ภายใน 5 ปีปฎิทิน
    ส่วนดอกเบี้ยบ้านที่จ่ายไปก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีก โดยรวมอาจจะเสียดอกเบี้ยมากกว่า แต่จะประหยัดภาษีได้
    และอาจจะได้เงินปันผลในการลงทุนเพิ่มขึ้นมา
    ลองศึกษาได้จากหนังสือเกี่ยวกับ การออมเงิน ได้ครับ

    By: Raining Man
    Since: 22 ต.ค. 55 08:23:07

  9. admin Post author

    หลังจากหมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยแล้ว  (ส่วนมาก 2-3 ปี)   ผมคิดว่าถึงเวลาต้องพิจารณาแล้วว่าเงินออมเดือนละ 1.5 หมื่น  (ถึงเวลานั้นคงมีเก็บประมาณ 5 แสนแล้ว)  ได้ดอกผลมากหรือน้อยกว่าดอกเบี้ยเงินกู้  ถ้าน้อยกว่าก็น่าจะเอาไปตัดเงินต้นมากกว่า  รวมถึงส่วนที่เก็บไว้อาจจะเจียดมาตัดต้นเป็นก้อนใหญ่ได้อีกจำนวนหนึ่ง  ตัดต้นเร็วก็ปลดหนี้เร็ว

    ผมก็มีหนี้รอบตัวเลยครับ  แต่เป็นหนี้เพื่อสร้างหลักสร้างฐาน  ไม่ใช่หนี้จากการกินใช้  แต่เงินออมก็มี  หลักๆ ก็เทียบว่าอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทน  กับอัตราดอกเบี้ยจ่ายอันไหนสูงสุดก็เอาเงินไปลงตรงนั้น  เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหลายๆ ที่บริษัทสมทบในอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่พนักงานไม่จำเป็นต้องให้หักเพิ่ม  ก็ดูว่าผลตอบแทนของมันดีไหม  ถ้าไม่ดีก็ไม่เพิ่ม % หัก   ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ของภรรยาให้ปั้นผลหุ้น 7-9% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกก้อน ก็จะส่งหุ้นสหกรณ์ให้เต็มตามขีดจำกัดที่เขาให้ส่งก่อน

    ตึงไหม ขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้ชีวิตของเราเองครับ   ถ้าใจเรามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่แบบง่ายๆ  ไม่ต้องเที่ยว  ไม่ต้องซื้อของใช้แพงๆ ไม่ต้องให้พ่อแม่ ไม่มีครอบครัวที่ต้องเลี้ยง มันก็ไม่ตึงมากครับ

    By: rujipars_a
    Since: วันปิยมหาราช 55 11:28:54

  10. admin Post author

    ได้ คุณมีเงินเก็บ เดือนละ 15000 มีเงินสดอยู่ 300000 ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเตียมเงินฉุกเฉินอีก

    By: joekk1
    Since: วันปิยมหาราช 55 22:57:17

  11. admin Post author

    จะไปบีบคั้นตัวเองทำไม หนี้บ้านเป็นหนี้ระยะยาว ดอกเบี้ยก็หักภาษีได้

    By: อดิ
    Since: 24 ต.ค. 55 16:47:35

Leave a Reply