ใครเคยจับเสือมือเปล่าบ้างไหมคะ

ใครเคยจับเสือมือเปล่า ซื้อบ้านไม่เสียสักแดงไหมคะ
เห็นหลายๆ คนซื้อบ้านครั้งนึงต้องเตรียมเงินมากมาย
มัดจำเอย ดาวน์เอย ค่าโอน ฯลฯ หลักหมื่นถึงหลักแสน
เป็นกำลังใจให้กับคนอยากมีบ้าน ที่ต้องเตรียมเงินมากมาย
เราก็เป็นคนนึงไม่ได้มีรายได้เยอะอะไร เราซื้อบ้านใช้เงินแค่หมื่นเดียวในการจอง
พอกู้ผ่าน ได้เกิน 100% ในวันไปทำเรื่องที่กรมที่ดินธนาคารเค้าคืนให้หมด สรุบคือไม่ต้องเสียสักแดงเดียว
มันรวมทุกอย่างหมดแล้ว ได้บ้านมาครองเป็นหนี้สมใจ
มีคนอื่นเป็นอย่างนี้บ้างไหมคะ

By: wanassanan
Since: วันปิยมหาราช 55 11:32:18

28 thoughts on “ใครเคยจับเสือมือเปล่าบ้างไหมคะ

  1. admin Post author

    เป็นหนี้ เป็นล้าน เพื่อซื้อบ้าน ไม่ได้เรียกจับเสือ มือเปล่าหรอกครับ

    By: nonacc
    Since: วันปิยมหาราช 55 11:44:29

  2. admin Post author

    เอ่อ …. อ่านแล้วหนาวพอสมควร…

    คนส่วนใหญ่คิดแบบนี้นี่เอง
    มิน่า สิ้นเดือนทีไร อิออน ถึงแถวยาวเป็นหางว่าว
    แลกเช็ค,ตั้งแชร์กันจ้าละหวั่น

    สุดท้าย …สู่ขั้นสุดยอด… ก็ "นอกระบบ"
    ตอนจบเดากันเอาเอง…

    By: การเวก
    Since: วันปิยมหาราช 55 11:50:26

  3. admin Post author

    จริงๆมันทำได้นะครับ แต่บางอย่างที่ทำมันสะท้อนวินัยหรือ
    ความสามารถในการผ่อนครับ

    ไม่ก็คนนั้นเป็นอาชีพพิเศษ เช่น หมอ หรือ ผู้พิพากษา นักบิน หรือข้าราชการ
    ที่เงินเดือนโอเค

    อย่างมากก็วางเงินจอง

    กู้ได้มากกว่าราคาบ้าน

    ถ้าอาชีพไม่พิเศษ ก็คงเลือกโครงการที่ค่อนข้างมีชื่่อขึ้นไป ราคาประเมินอาจจะได้สูง หรือคุยตอนประเมิน บวกกู้ตกแต่งเพิ่ม

    แต่อย่าลืมว่า ความสามารถในการผ่อนมันไม่หลอกใครครับ
    ถ้าเก็บเงินไม่ได้ ผ่อนก็ลำบากครับ

    By: ฉันมันตัวเปล่า
    Since: วันปิยมหาราช 55 12:06:29

  4. admin Post author

    จขกท เข้าใจคำว่า "จับเสือมือเปล่า" ใหมคะ ?

    By: คิน * คาเนะ
    Since: วันปิยมหาราช 55 12:11:34

  5. admin Post author

    นึกว่าพวกไปต่อคิว ตีสอง ขายใบจองคอนโด

    นี่สิจับมือเปล่าของจริง

    กำไรห้าพันแค่ข้ามคืน

    By: ววว
    Since: วันปิยมหาราช 55 12:24:57

  6. admin Post author

    ไม่เคยกู้นอกระบบ  บ้านราคาประมาณเกือบสองล้าน
    ไม่ได้เป็นโครงการมีชื่อ บ้านมันใหญ่แต่ราคาถูกนะค่ะเลยกู้ได้เต็ม
    ก็กู้ร่วมด้วย ผ่อนมาได้ปีนึงแล้ว แต่ก็จริงอย่าง คห.ที่  4 ค่ะ
    ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะจ่ายแค่นี้หรอกค่ะ ไปดูหลายโครงการรู้สึกว่าจ่ายเยอะ บ้านหลังนิดเดียว
    จนมาลงตัวที่นี่ค่ะ

    By: wanassanan
    Since: วันปิยมหาราช 55 12:24:59

  7. admin Post author

    ขอคุยนิดครับ

    ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ เคยแปลกใจกันบ้างหรือเปล่า

    สมัยที่ทำงานได้เงินเดือน ๆ ละ 5000 – 6000 บาท
    มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 500 – 600 หรือเกือบ พัน ในบางเดือน

    แต่เวลาผ่านมาเรื่อย ๆ
    เงินเดือนขึ้นเป็น 30000 – 40000 บาท
    กลับเป็นหนี้ หลายแสน หรือเกือบล้าน
    (ที่ไม่ใช่รถ,บ้าน,ที่ดิน,หรือการลงทุน)

    ผมเห็นคนพวกนี้ (ไม่ได้หมายถึง จขกท นะครับ) มากกกกก…
    ในที่ที่ผมทำงาน มีคนแบบนี้เพียบเลย

    ไม่รู้มันเป็นแฟชั่นหรืออะไร?

    By: การเวก
    Since: วันปิยมหาราช 55 12:27:28

  8. admin Post author

    ไม่กล้าพอครับ ตอนเด็ก ๆ แค่จับลิงโดนลิงกระโดดกัดหลัง ยังเข็ดไม่หาย

    อ้าว… คนละเรื่องกันเหรอ ^ ^

    เอาจริงละ
    ถ้าเรื่องเกี่ยวกับบ้าน หรืออะไรที่สำคัญ ที่ดูแล้วมีแนวโน้มว่าถ้าพลาดขึ้นมา จะมีผลเสียหายทางการเงินต่อเนื่องกับส่วนอื่น ๆ ผมไม่จับเสือมือเปล่า เพราะคิดว่าพลาดมามันอาจจะเสี่ยงเกินที่จะเริ่มใหม่ อะไรที่สำคัญแบบนี้ต้องให้แน่ใจ ต้องมีก๊อกสอง ก๊อกสาม สำรองไว้กันพลาดครับ

    แต่ถ้าเป็นรายได้พิเศษ ซื้อมาขายไป ไม่เดือดร้อน ขำ ๆ ได้ก็ดี ทิ้งไว้ก็กำไร แบบนี้เอาครับ

    By: durian to go
    Since: วันปิยมหาราช 55 13:04:16

  9. admin Post author

    เอ่อ จขกท. หมายความว่าได้เป็นหนี้บ้านโดยไม่ได้เสียเงินสักบาทใช่ไหมคะ แบบนั้นไม่เรียกจับเสือมือเปล่านะคะ ควรจะเรียกว่าสวรรค์เข้าข้างค่ะ หรือบุญเก่าเยอะ ยื่นกู้ผ่านโดยง่ายดาย ได้เป็นหนี้ที่ใครๆก็อยากเป็นค่ะ ต่อจากนี้มันจะเป็นหนี้แห่งความสุขหรือทุกข์ จขกท. เท่านั้นที่จะรู้ดีนะคะ

    By: Ready /at/ Me
    Since: วันปิยมหาราช 55 13:06:12

  10. admin Post author

    เราว่าคนที่เตรียมขนาดนั้น เค้าเข้าใจระบบการกู้กับธนาคารดีแล้วมากกว่าค่ะ

    การที่เรามีเงินจ่ายมากเท่าไหร่ แล้วกู้น้อยเท่าไหร่ นั่นก็คือเราเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารน้อยเท่านั้น มีเงินเท่าไหร่โปะ มีเงินเท่าไหร่โปะ ไม่ใช่เตรียมผ่อนตามที่ธนาคารบอกให้ผ่อนแต่ละเดือนอย่างสบายใจ

    ถ้าคุณคิดว่าการที่คุณกู้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์นั้นคือสิ่งที่ดีแล้วล่ะก็……..ระวังนะคะ

    By: ลูนาร์
    Since: วันปิยมหาราช 55 13:11:57

  11. admin Post author

    เพราะมีคนคิดได้แบบนี้ พวกผมถึงได้รวยเอารวยเอาไงครับ ^ ^

    By: osram
    Since: วันปิยมหาราช 55 13:47:08

  12. admin Post author

    แล้วตอนโอนล่ะครับ ไม่ต้องจ่ายเลยเหรอ
    โชคดีจังเลยครับ ของผมตอนนี้รอลุ้นแบ๊งค์อื่นอยู่ เพิ่งได้พรี แค่แบ๊งค์เดียว

    By: alannann
    Since: วันปิยมหาราช 55 14:34:39

  13. admin Post author

    วงเงินยิ่งได้สูง  ยิ่งต้องจ่ายดอกเยอะนะคะ

    แบงค์มองความเสี่ยงสูง  เค้ายิ่งให้ดอกแพง..

    By: nusarathi
    Since: วันปิยมหาราช 55 14:35:56

  14. admin Post author

    ผมว่าคำว่าจับเสือมีเปล่าใช้ไม่ได้สำหรับกรณีของคุณ การจับเสือมือเปล่าคือได้อะไรมาโดยไม่ต้องลงทุนยกตัวอย่างง่ายๆๆเช่นคุณซื้อมาขายไปโดยได้เคดิตจากสินค้าและมาขายได้เงินสดที่มีกำไรในกรณีของคุณได้บ้านมาโดยเงินกู้เกินมูลค่าของบ้านแต่คุณยังมีหนี้ก้อนโตรออยู่อาจจะเกิดขึ้นจากเคดิตของคุณหรือโครงการขายถูกหรือดอกเบี้ยอาจจะสูงก็ได้ ผมอยากจะบอกอะไรสักหน่อยว่าคำว่าดอกเบี้ยมันเดินหรือหมุนตลอดเวลาไม่ว่าคุณจะหลับหรือตื่นดังนั้นพยายามกู้หรือเป็นหนี้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้. ดังคำว่าการไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริญ.

    By: ผมล้อเล่นนะครับ (korpphaibun)
    Since: วันปิยมหาราช 55 15:42:34

  15. admin Post author

    ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ตั้งหัวกระทู้ที่ความหมายผิดไปต้องขอโทษด้วยค่ะ
    แต่หนี้ก้อนนี้ทำให้เราและครอบครัวมีความสุขค่ะ

    By: wanassanan
    Since: วันปิยมหาราช 55 15:53:29

  16. admin Post author

    ก่อนปี2540สักปี-สองปี เคยซื้อตึกเเถว2คูหาราคา10ล้าน ใช้เงินจองเเค่500บาท กู้ธนาคารได้11ล้าน ดูเหมือนกำไร เเต่ปี40 ธนาคารที่ให้กู้เจ็ง ต้องไปควบรวมกับธนาคารกรุงไทย ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นไป17-18% ยอดผ่อนเดิมเเค่ดอกเบี้ยยังไม่พอ ถูกบังคับให้ผ่อนสูงขึ้นกว่าสัญญาเดิมอีกหลายหมื่นบาท เพื่อให้พอดอกเบี้ยเเละเหลือพอลดเงินต้นไม่กี่พันบาท การค้าก็ไม่ดี เนื่องจากพิษต้มยำกุ้ง รอดมาได้
    ไม่เอาอีกเเล้ว ต่อไปจะซื้ออะไรเงินกูต้องมากกว่าเงินกู้ ถึงจะปลอดภัย คิดอยู่เสมอไม่มีทางเอากำไรธนาคารได้หรอก

    By: lanna_rice
    Since: วันปิยมหาราช 55 16:08:47

  17. admin Post author

    ไม่เห็นน่าภูมิใจเลย … กู้ได้มาแค่ไหน เป็นหนี้มากแค่นั้น
    สุดท้าย ต้องจ่ายหมด

    อีกอย่างแบบนี้เค้าไม่เรียกจับเสือมือเปล่านะ
    เค้าเรียกแบบนี้ว่า หนี้สินล้วนๆ

    By: บ่ายสี่โมง
    Since: 24 ต.ค. 55 00:52:36

  18. admin Post author

    ตอบ จขกท มีคนอยากเป็นอย่าง จขกท มากมายเลยละครับ แต่ผมไม่อยากเป็นแน่นอน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ซื้อเพราะไม่มีเงินเก็บออมมาก่อน เลยอยากได้ยอดกู้ 100-110% แถมได้อัตราดอกเบี้ยโหด และอาจต้องรวมเงินกู้เพื่อทำประกันแพงๆด้วย

    ผมคงไม่เอาดอกเบี้ยโหดๆ ไม่กล้าเป็นหนี้เยอะๆโดยไม่มีเงินเก็บออมเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆในอนาคตครับ กลัวโดนยึดบ้าน กลัวโดนฟ้องล้มละลาย มันเครียดอ่ะถ้าต้องพาครอบครัวเข้ามาอยู่บ้านอย่างมีความสุขแล้วจู่ๆวันนึงโดนไล่ออกจากบ้าน

    By: Rapter
    Since: 24 ต.ค. 55 05:27:44

  19. admin Post author

    แบบนี้ยิ่งกว่าจับเสืออีก แถวบ้านผมเรียกว่าขี่หลังเสือ
    จะลงได้ก้อต่อเมื่อเสือแก่ฟันฟางหักหมดแล้ว
    ถ้าไม่โปะก้อคงต้องอยู่บนหลังเสือไม่ต่ำกว่า 20 ปี

    By: nat1234
    Since: 24 ต.ค. 55 08:58:21

  20. admin Post author

    สัญญาณอันตรายเริ่มมาแล้ว วิกฤตฟองสบู่ ปี 40 ก็เริ่มจากธนาคารปล่อยกู้เกินวงเงินนี่แหละครับ

    By: Raining Man
    Since: 24 ต.ค. 55 12:56:19

  21. admin Post author

    จับเสือมือเปล่าคือกู้มาได้ 100-110% แลวเอาไปปล่อยเช่าต่อ ได้ค่าเช่าเกินค่าผ่อนครับ อันนั้นถึงจะเรียกว่าจับเสือมือเปล่า

    By: basicball
    Since: 24 ต.ค. 55 14:42:06

  22. admin Post author

    แบบนี้เขาไม่เรียกจำเสือมือเปล่าจ๊ะ

    ถ้าจับเสือมือเปล่า มันต้องเป็นรายรับเต็มๆ ไม่ใช่การกู้เงิน
    นายหน้าที่ดินส่วนใหญ่จับเสือมือเปล่าค่ะ

    By: จี้เพชร
    Since: 24 ต.ค. 55 14:57:10

  23. admin Post author

    เป็นหนี้ก้อนใหญ่เข้าแล้วยังโง่ไม่รู้ตัวอีก

    By: อดิ
    Since: 24 ต.ค. 55 16:28:01

  24. admin Post author

    เอ๊า จขกท เขากู้บ้านได้ ก็ดูมีความสุขดี
    ไอ้เรื่องผ่อนหนัก ผ่อนเบาเขาก็ดูไหวนะ ไม่ได้มาโอยครวญว่าไม่ไหว
    ได้เป็นหนี้เหมือนคนหลาย ๆ คนในห้อง
    เพียงแต่อาจจะไม่ได้ดาวน์ ไม่ได้ใช้เงินเก็บอะไร ก็รุมว่าเขากันใหญ่

    ดีใจกับคุณ จขกท ค่ะที่ได้เป็นหนี้สมใจ
    จะกู้ได้มาก ผ่อนเยอะหน่อยก็สู้ ๆ นะคะ

    เราก็อยากมีหนี้เหมือนกัน แต่มันยังไม่ถึงวันของเรา ^^

    By: nungying
    Since: 24 ต.ค. 55 19:24:31

  25. admin Post author

    ไม่ใช่จับเสือมือเปล่าหรอกครับ  ผมว่าเป็นโอกาสหนึ่งของชีวิต ที่จะเกิดกับใครบางคน และคนคนนั้นจะฉวยหรือปล่อยโอกาสไปมากกว่า

    สถาบันการเงินหลังยุคฟองสบู่ (2540) เข้มแข็งขึ้นมาก มีการระวังเรื่อง NPL หรือหนี้เสียมากขึ้นด้วยเช่นกัน  คนที่ผ่านการพิจารณาจากสถาบันการเงินให้เป็นลูกหนี้ได้ ถือว่ามีเครดิตในระดับหนึ่งแล้ว  (สถาบันการเงินอยากได้ดอกเบี้ยพร้อมเงินต้น มากกว่าหลักประกันครับ)

    ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมก็มีโอกาสแบบจขกท.นี่หล่ะ  และผมเลือกที่จะคว้ามันไว้ ด้วยเงินเก็บแค่แสนเดียว  ผมมีโอกาสได้ทดสอบชีวิตด้วยการเป็นหนี้ธนาคารกว่า 4 ล้านบาท

    ผ่านมา 11 ปีแล้ว  หนี้พร่องไปไม่ถึงครึ่ง เพราะมีการกู้เพิ่มเป็นระยะๆ  แต่ก็จะสู้ต่อไปครับ  ตราบเท่าที่ผมยังมีแรงและกำลังใจจากครอบครัว  ผมยอมเหนื่อย (มากกกก) เพื่อให้พวกเค้ามีความสุขตามอัตภาพ มีสภาพแวดล้อมที่ดี  ผมเองก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท  ทำแผนสำรอง 1-2-3 เผื่อไว้แล้วเช่นกัน  เพราะชีวิตคนเรา ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอนนั่นเอง

    By: buccaneer /at/ poppymail.com
    Since: 25 ต.ค. 55 08:59:57

Leave a Reply