จะทาสีบ้านเก่า จะใช้สีทาภายนอกยี่ห้อไหนดี
และควรใช้สีกึ่งเงาหรือแบบเนียนดี
ซื้อสีที่ไหนได้ราคาถูก ขอบคุณทุก คห.
ปล.๑ บ้านเดี่ยวสองชั้น สามารถทาสีภายนอกเองได้มั้ย
ปล.๒ ข้อดี ข้อเสีย ของเครื่องพ่นสี
By: อยู่ในอู่ทะเลบุญ
Since: 4 พ.ย. 55 00:40:47
จะทาสีบ้านเก่า จะใช้สีทาภายนอกยี่ห้อไหนดี
และควรใช้สีกึ่งเงาหรือแบบเนียนดี
ซื้อสีที่ไหนได้ราคาถูก ขอบคุณทุก คห.
ปล.๑ บ้านเดี่ยวสองชั้น สามารถทาสีภายนอกเองได้มั้ย
ปล.๒ ข้อดี ข้อเสีย ของเครื่องพ่นสี
By: อยู่ในอู่ทะเลบุญ
Since: 4 พ.ย. 55 00:40:47
You must be logged in to post a comment.
ถ้าเป็นเกรดเดียวกันแต่ละยี่ห้อก็มาตรฐานเดียวกัน. จะกึ่งเงาหรืแบบเนียนก็อยู่ที่งบ
1. สามารถทาสีภายนอกเองได้ถ้าไม่กลัวเหนื่อย และสามารถที่จะขึ้นไปทาบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก ต้องใช้นั่งร้านหรือต้องมีบันได
2. ข้อดี. สีเนียน ถ้ามีฝีมือพอ เร็ว.
ข้อเสีย เขาไม่ให้ยืมเครื่อง. ราคาแพงกว่าลูกกลิ้งทาสี. ต้องคอยย้ายสายไฟ.สายลม. สีฟุ้งกระจาย. ต้องหากระดาษหรืออะไรมาปิดในส่วนที่ไม่ต้องกาใ้สีมันโดนจะยุ่งยาก ต้องผสมสีให้พอเหมาะ. และ มีฝีมือพอหรือป่าว
By: ฟนิ (aon2521)
Since: 4 พ.ย. 55 09:30:44
* เราใช้ beger นะซื้อตามร้านขายสีทั่วไปน่ะแหละ ใช้กึ่งเงาดูสะท้อนดี
* ทาเองได้แต่ต้องหลาย ๆ คนเลย บ้านสองชั้นทาเองนี่เหนื่อยมหาศาลนะถ้าไม่เคยทำน่ะ เพราะมันต้องสีรองพื้นเก่าหนึ่ง รองพื้นสีใหม่อีกสองรอบเป็นอย่างน้อย ไหนจะต้องนั่งร้านอีก เสี่ยงต่อการตกลงมาหรือเปล่า คุ้มกันไม๊ต้องถามตัวเองดูนะ
By: natlapoon
Since: 4 พ.ย. 55 11:43:24
เห็นผู้เจริญบอกว่า โจตัน ก็น่าสนใจครับ
By: เลือนลางร่ำไร
Since: 4 พ.ย. 55 22:45:00
delta ครับ สีแห้งเร็ว กลิ่นไม่แรง ราคาไม่แพง
By: Kahathanan
Since: 4 พ.ย. 55 23:22:22
สีน้ำทาอาคาร เอาเฉพาะที่คุ้นๆกัน
กลุ่มของTOA(ไทย) = TOA, CAPTAIN,PAMASTIC
กลุม่ของ AKZO NOBEL / EURORE= ICI / JOTUN
กลุ่มของญี่ปุ่น = NIPPON
กลุ่มของไทย = BEYER
ตัวท๊อปของแต่ล่ะค่ายไม่ค่อยทิ้งกันนักครับ เนื่องจากวัตถุดิบมาจากที่เดียวกันหรือเกรดเดียวกัน แทบไม่มีใครผลิตวัตถุดิบเอง
แต่ถ้าจขกท เลือกระดับเกรด บีเมือไร คราวนี้จะได้เห็นความแตกต่างของแต่ล่ะค่ายได้ชัดเจนครับ เพราะจะมีการปรับสูตรแต่งสีกันเองอุตลุดเรย อีกอย่างราคามันบอกถึงคุณภาพอ่ะครับ ถ้าไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพเลือกตัวแพงไว้ก่อนไม่เสียหาย บ้านหลังนึงใช้สีไม่เยอะหรอกครับ อย่าไปคิดมากเรื่องส่วนต่าง
ปล.2 การพ่นสีกับบ้านที่พักอาศัย ให้เป็นหน้าที่ผู้ขำนาณครับ ต้องมีการปิดกันฝุ่นสีกันเยอะ เด๋วจะขัดใจกับเพื่อนบ้านได้น่ะครับ
By: chareeve
Since: 5 พ.ย. 55 09:08:50
จริงๆแล้วตลาดสีในเมืองไทย มีหลากหลาย..หลาย..หลายยี่ห้อมาก และมีการแข่งขันการสูงมาก..มาก..มาก เช่นกัน
บางคนก็มีความเชื่อว่าสี Brand ต่างชาติ(ICI/Jotun/Pammastic/NipponPaint) จะดีกว่าสีของคนไทย(TOA/Captain/Beger)
บางคนก็เชื่อโดยประสบการณ์ที่ตนเองหรือคนที่นับถือบอกต่อ…บอกต่อกันมา
ด้วยวงการสีมีการแข่งขันกันสูงมาก หากยี่ห้อนั้นๆยังคงอยู่ในตลาดมายาวนานมากกว่า 10ปี ก็เป็นการพิสูตรได้ระดับหนึ่งแล้ว
จากที่มีการแข่งขันกันสูงมาก สีที่อยู่ในตลาดมากว่า 10ปี ก็จะมีคุณภาพสมราคาในแต่ละเกรด/แต่ละรุ่น เมือเทียบกับคู่แข่ง (หากไม่ได้ดั่งว่า สินค้ารุ่นนั้นๆก็จะหายไปจากตลาดเอง)
ใคร่แนะนำสีที่มีคุณสมบัติข้างต้นให้เป็นแนวทางบ้าง
Premium Grade (มีให้เลือกทั้งฟิล์มสีเนียนและกึ่งเงาให้เลือกใช้) ราคาประมาณถังละ 3,000 บาท/ถัง 5กล. หรือประมาณ 1,500 บาท/ถัง 10ลิตร(สีผสมเครื่องอัตโนมัติ)
TOA : SuperShield Titanium
JOTUN : JotaShield
ICI : Dulux WeatherShield
CAPTAIN : ParaShield OxyLink
BEGER : BegerShield Weather Guard
PAMMASTIC : Pammacrylic Shield
High Quality Grade (ส่วนใหญ่จะเป็นฟิล์มสีด้าน) ราคาประมาณถังละ 2,000-2,500 บาท/ถัง 5กล. หรือประมาณ 1,000-1,200 บาท/ถัง 10ลิตร(สีผสมเครื่องอัตโนมัติ)
TOA : Shield-1 Ext.
JOTUN : Jotatough HiShield
ICI : Dulux Inspire Ext.
CAPTAIN : Shield Plus Ext.
PAMMASTIC : PermoShield Nano Guard
Jotun : Jotatough HiShield
Medium Grade (ส่วนใหญ่จะเป็นฟิล์มสีด้าน) ราคาประมาณถังละ 1,500-2,000 บาท/ถัง 5กล. หรือประมาณ 800-1,000 บาท/ถัง 10ลิตร(สีผสมเครื่องอัตโนมัติ)
TOA : 4 Seasons Ext.
ICI : Supercote Ext.
CAPTAIN : Longlife Ext.
BEGER : BegerCool All Seasons Ext.
PAMMASTIC : ExtraPam Ext.
อย่างไรก็ตามคุณภาพงานสียังขึ้นอยู่การการทาถึง 50%
พื้นผิวต้องแห้งสะอาด ปราศจากฝุ่น/คราบไข และทาสีรองพื้นตามรุ่นที่ผู้ผลิต/จำหน่าย แนะนำคู่กับสีทับหน้าเสมอ
การทาสีต้องปฏิบัติการข้อกำหนด/ข้อแนะนำของผู้ผลิตสี อย่างเคร่งครัด (ดู-อ่านศึกษาได้จากปกหลัง Catalogue หรือข้างถังสีก็ได้)
หากเลือกสีตาม Grade ข้างต้น และปฏิบัติการทาสีได้ตามมาตรฐาน
Premium Grade จะมีอายุสีไม่น้อย 10ปี
High Qulity Grade จะมีอายุสีไม่น้อย 8ปี
Medium Grade จะมีอายุสีไม่น้อย 5ปี
จขกท. ควรอ่าน/ศึกษาจาก cataloge ซัก 2-3ยี่ห้อที่ตัวเองสนใจ, สอบถามเจ้าหน้าที่(PC)ที่ประจำตาม ModernTrade (Homepro/บุญถาวร) ซักถามคุณสมบัติ/จุดเด่น
แล้วตัดสินใจด้วยตนเอง
By: siriwatch /at/ captaincoating.com
Since: 5 พ.ย. 55 11:28:49
อนึ่งสำหรับอาคารเก่า การดำเนินการเตรียมพื้นผิวมีความสำคัญมากกว่ายี่ห้อสีเสียอีก จึงควรปรึกษาทำความเข้าใจหรือข้อกำหนดกับช่างให้ชัดเจน ก่อนประเมินราคา ใคร่แนะนำย่อๆดังนี้
การเตรียมพื้นผิว ปูน-คอนกรีต(ที่เคยทาสีมาแล้ว)
– กรณีที่ฟิล์มสีเสียหายมาก ( หลุดล่อน / ปริบวม / ร่วนเป็นฝุ่น ) ให้ทำการขูดลอกฟิล์มสีออก โดยใช้เกรียงเหล็ก
บริเวณใดที่มีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ หรือปูนฉาบไม่ยึดติดกับผนังก่อภายใน ให้สกัดผิวปูนบริเวณนั้นออกและทำการฉาบแต่งใหม่ให้กลมกลืนกับบริเวณรอบๆ, ส่วนรอยแตกร้าวขนาดเล็ก ( ขนาดไม่เกิน 1 มม.) และการยึดเกาะของปูนฉาบยังอยู่สภาพดี ให้อุดโป้วด้วยวัสดุประเภท Acrylic Filler ( ห้ามใช้ผงยิบซั่ม หรือดินสอพอง ) ใช้ยี่ห้อเดียวกับสีที่คุณจะเลือกใช้ แล้วขัดผิวให้เรียบกลมกลืนกับบริเวณรอบๆ ( หากรอยแตกร้าวมีความกว้างมากกว่า 1 มม. แนะนำให้อุดโป้วด้วยวัสดุประเภท Acrylic Sealant หรือ Polyurethane Elastomeric Sealant )
– ขัดล้างพื้นผิวทั้งหมดด้วยน้ำสะอาด พร้อมแปรงขนแข็ง ( ห้ามใช้แปรงขนโลหะ ) หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง / High Pressure Cleaner ( ความดันไม่น้อยกว่า 120 บาร์ ) เพื่อขจัดคราบเขม่า / ฝุ่นผง / และฝุ่นสีเดิม ทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. ( กรณีที่ไม่สามารถใช้น้ำขัดถู / ฉีดล้าง ให้เลือกใช้การเช็ดถูด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดหมาดๆ เช็ดถูแทนหลายๆครั้ง จนมั่นใจว่าฟิล์มสีเดิมไม่หลุดล่อนออกมา และคราบฝุ่นสีหมดไปแล้ว )
– ผนังส่วนที่มีคราบเชื้อรา ให้กำจัดออกให้หมด ( มิฉะนั้นจะเกิดขึ้นอีกในบริเวณเดิม ) โดยการทา "น้ำยากำจัดเชื้อรา" (ใช้ยี่ห้อเดียวกับสีที่คุณคิดจะเลือกใช้) บริเวณดังกล่าวแล้วทิ้งไว้ 2-3 ชม. หลังจากนั้นขูดลอกและขัดล้างคราบเชื้อราเหล่านั้นออกให้หมด แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดตามอีกครั้ง จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. จากนั้นจึงลงน้ำยาเที่ยวต่อไปอีก 1 ครั้ง ทิ้งให้น้าซึมลงสู่พื้นผิว และปล่อยให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. โดยไม่ต้องล้างออก จากนั้นค่อยทาน้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่าต่อไป
การเตรียมพื้นผิวโลหะเหล็ก
– กรณีฟิล์มสีมีความเสียหายมาก ( ผิวด้าน / ปริล่อน / ร่วนเป็นฝุ่น ) ให้ลอกสีเดิมออกให้หมด โดยใช้น้ำยาลอกสี ( Paint Remover ) และล้างคราบน้ำยาลอกสีออกด้วยน้ำมันก๊าด หรือ ทินเนอร์ผสมสีน้ำมัน แล้วจึงขัดผิวด้วยกระดาษทรายอีกครั้งจนผิวเรียบร้อย จึงเริ่มทาสีรองพื้นต่อไป ( ไม่ควรปล่อยให้โลหะเหล็กที่ทำความสะอาดแล้วสัมผัสกับอากาศ / ความชื้นนาน ควรทาสีรองพื้นทันทีที่เตรียมพื้นผิวเสร็จ )
– กรณีที่ฟิล์มสีเสียหายไม่มาก หรือมีคราบสนิมขึ้นบางจุด ให้ขจัดคราบสนิมและฟิล์มสีบริเวณนั้นออก โดยใช้กระดาษทราย หรือเครื่องขัดจนถึงผิวเหล็ก แล้วทาสีรองพื้นกันสนิมบริเวณนั้นทันที, ส่วนบริเวณที่ฟิล์มสีเดิมอยู่สภาพดี ให้ขัดลูบด้วยกระดาษทรายให้ฟิล์มมีความหยาบ แล้วสามารถทาสีน้ำมันซ่อมแซมได้เลย
การเตรียมพื้นผิวไม้
– กรณีที่ฟิล์มสีมีความเสื่อมสภาพมาก ต้องขูด / ลอกสีโดยการขัดด้วยกระดาษทราย หรือใช้น้ำยาลอกสี ( หลังการลอกสี ให้แน่ใจว่าทำความสะอาดพื้นผิวไม้จนปราศจากคราบน้ำยาลอกสีแล้ว ), โดยหากส่วนใดมีรอยแตก ให้อุดโป้วด้วย สีโป้วประเภท วูด ฟิลเลอร์ แล้วขัดผิวให้เรียบกลมกลืนกับบริเวณรอบๆ
– กรณีที่ฟิล์มสีเดิมค่อนข้างดี ให้ขัดเบาๆ หรือลูบด้วยกระดาษทรายละเอียด ให้ฟิล์มมีความหยาบ แล้วจึงทำความสะอาดให้ปราศจากคราบไข ฝุ่น น้ามันหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ แล้วสามารถทาสีน้ำมันซ่อมแซมได้เลย
ระบบสี(อาคารเก่า)
สีรองพื้น : ทาด้วย"น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า" 1 เที่ยว เป็นสีน้ำมันใส เหลวพร้อมใช้ กลิ่นฉุน(พอสมควร) ทาให้ได้ประมาณ 35 ตรม./กล./เที่ยว, ทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชม.
สีทับหน้า : ทาด้วย"สีน้ำอะครีลิคชนิดภายนอก" อย่างน้อย 2 เที่ยว ทาให้ได้ 30-35 ตรม./กล./เที่ยว หรือประมาณ 150-175 ตรม./ถัง(5กล.)/เที่ยว
ยี่ห้อ/รุ่นสี ก็แล้วแต่งบประมาณและยี่ห้อสีที่เกริ่นไว้ให้แต่แรกแล้ว
By: siriwatch /at/ captaincoating.com
Since: 5 พ.ย. 55 11:43:11
ขอบคุณทุกท่านมาก
และคุณsiriwatch@captaincoating.com ที่ไม่สามารถแจกกิ๊ฟได้
By: จขกท (อยู่ในอู่ทะเลบุญ)
Since: 6 พ.ย. 55 22:32:04