คือผมซื้อทาวเฮ้าส์(มือ2)จะทาสีใหม่ทั้งหลัง ภายนอก+ภายใน
และได้พาช่างมาดูพร้อมตกลงราคกันได้แล้ว
อยากทราบว่าก่อนจะเริ่มงาน ต้องทำหนังสือสํญญาจ้างงานไหม และควรแบ่งจ่ายเป็นกี่งวด
การล็อคบ้าน และดูช่างทำงานควรทำยังไง
ขอคำแนะนำด้วยครับ เป็นบ้านหลังแรกในชีวิตครับ
By: krish
Since: 4 พ.ย. 55 18:54:16
ร่างสัญญาเองเลยครับ (ถ้าเป็นช่างที่ไม่รู้จักกันมาก่อน)
แบ่งจ่าย 2 งวดก็คงพอ เพราะงานไม่ซับซ้อนมากนัก
การดูแลบ้าน ถ้ายังไม่มีทรัพย์สิน มีค่าก็ไม่ต้องห่วงอะไรมาก
ที่สำคัญน่าจะดูความเรียบร้อยของงานมากกว่า
จากประสบการณ์ตรงนะครับ
By: DOG TUTA
Since: 4 พ.ย. 55 20:11:47
ถามช่างว่าทาแบบไหน ขูดสีเก่าออกไหม ซ่อมผนังให้เรียบด้วยหรือเปล่า ผนังเก่าขูดสีออกบางทีปูนก็หลุดรุ่ยร่วง เพราะปูนเสื่อมอายุนานมากแล้ว
ทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อนไหม ทาสียี่ห้ออะไร คุณภาพเกรดไหน ทากี่เที่ยว
สีภายนอกและภายในควรแยกกัน ที่2 อิน 1 ก็มี แต่ไม่เชียร์ว่าดีจริงค่ะ
ให้คนละเอียดกว่านี้มาบอกอีกทีค่ะ
By: Susisiri
Since: 4 พ.ย. 55 21:30:17
เป็นทาวเฮาส์ 3ชั้น ช่างตีราคา 65,000฿ ใช้สี TOA 7in1
ราคานี้เหมาะสมไหมครับ
By: krish
Since: 5 พ.ย. 55 12:33:21
ราคาพอสมควรเลยครับ แต่คุณตกลงราคากับช่างไปแล้วนิ แต่ถ้าจะแนะนำคิดว่า
1.สีซื้อเองจะดีกว่า ส่วนปริมาณการใช้สีกี่ถัง ก็แล้วลองถามช่างดูว่าแต่ละสีที่จะต้องการทานั้น ต้องใช้สีกี่ถัง ถ้าเราไม่เลือกเฉดเยอะ น่าจะช่วย save ค่าสี
2. ค่าแรงให้ช่างตีเหมาไป (ส่วนตัวเคยจ้างอยู่ 25,000 บาท สีผมใช้TOA ซุปเปอร์ชีล ประมาณ 24,000 บาท ทั้งภายในและนอกทั้งหมดรวมรั้ว ขึ้นนั่งร้าน บ้านเดี่ยว 54 ตร.ว)
3. ตกลงกับช่างด้วยว่ารองพื้น 1 เที่ยว ทาทับหน้า 2 เที่ยว (มาตรฐาน)
4. ขูดรอกสีเก่าหรือขัดราดำออกด้วย และอุดโป้วรอยแตกให้ด้วย ก่อนทารองพื้น
5. ในส่วนที่เป็นพื้น สีขัดออกยาก กำชับช่างไว้ ให้หาผ้าใบมารองกันสีหยดด้วย
6. ช่วงขั้นตอนขัดทำความสะอาด ลอกสี รองพื้นก่อนทาสีจริง น่าจะมาเฝ้าช่างทำงานหน่อยนะครับ เพราะสีจะทนไม่ทนขั้นตอนพวกนี้สำคัญ
7. ช่างกลับก็ล็อคบ้าน สบายใจกว่าครับ
By: ภารกิจเป๊ะ (ภารกิจเป๊ะ)
Since: 5 พ.ย. 55 13:38:23
ลอกสีจ่าย
รองพื้นจ่าย
ทาและเก็บงานจ่าย
By: aladin34
Since: 5 พ.ย. 55 13:47:23
จำเป็นต้องขูดลอกสีเก่าออกไหมครับ
By: krish
Since: 6 พ.ย. 55 00:41:20
การทาสีสำหรับอาคารเก่า ที่เคยผ่านการทาสีมาแล้วนั้น ไม่ถึงขนาดต้องลอกสีเก่าออกจนหมดครับ (ทำได้/แต่ คชจ.จะสูง)
ใคร่ขอแนะนำการเตรียมพื้นผิวไว้ให้ดังนี้
อนึ่งสำหรับอาคารเก่า การดำเนินการเตรียมพื้นผิวมีความสำคัญมากกว่ายี่ห้อสีเสียอีก จึงควรปรึกษาทำความเข้าใจหรือข้อกำหนดกับช่างให้ชัดเจน ก่อนประเมินราคา(จะได้ไม่ทะเลาะกันภายหลัง) ดังนี้
การเตรียมพื้นผิว ปูน-คอนกรีต(ที่เคยทาสีมาแล้ว)
– กรณีที่ฟิล์มสีเสียหายมาก ( หลุดล่อน / ปริบวม / ร่วนเป็นฝุ่น ) ให้ทำการขูดลอกฟิล์มสีออก โดยใช้เกรียงเหล็ก
บริเวณใดที่มีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ หรือปูนฉาบไม่ยึดติดกับผนังก่อภายใน ให้สกัดผิวปูนบริเวณนั้นออกและทำการฉาบแต่งใหม่ให้กลมกลืนกับบริเวณรอบๆ, ส่วนรอยแตกร้าวขนาดเล็ก ( ขนาดไม่เกิน 1 มม.) และการยึดเกาะของปูนฉาบยังอยู่สภาพดี ให้อุดโป้วด้วยวัสดุประเภท Acrylic Filler ( ห้ามใช้ผงยิบซั่ม หรือดินสอพอง ) ใช้ยี่ห้อเดียวกับสีที่คุณจะเลือกใช้ แล้วขัดผิวให้เรียบกลมกลืนกับบริเวณรอบๆ ( หากรอยแตกร้าวมีความกว้างมากกว่า 1 มม. แนะนำให้อุดโป้วด้วยวัสดุประเภท Acrylic Sealant หรือ Polyurethane Elastomeric Sealant )
– ขัดล้างพื้นผิวทั้งหมดด้วยน้ำสะอาด พร้อมแปรงขนแข็ง ( ห้ามใช้แปรงขนโลหะ ) หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง / High Pressure Cleaner ( ความดันไม่น้อยกว่า 120 บาร์ ) เพื่อขจัดคราบเขม่า / ฝุ่นผง / และฝุ่นสีเดิม ทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. ( กรณีที่ไม่สามารถใช้น้ำขัดถู / ฉีดล้าง ให้เลือกใช้การเช็ดถูด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดหมาดๆ เช็ดถูแทนหลายๆครั้ง จนมั่นใจว่าฟิล์มสีเดิมไม่หลุดล่อนออกมา และคราบฝุ่นสีหมดไปแล้ว )
– ผนังส่วนที่มีคราบเชื้อรา ให้กำจัดออกให้หมด ( มิฉะนั้นจะเกิดขึ้นอีกในบริเวณเดิม ) โดยหลังทำการขัดล้างหรือฉีดล้างแล้ว ปล่อยให้ผนังแห้ง 24 ชม. แล้วให้ทา "น้ำยากำจัดเชื้อรา" (ใช้ยี่ห้อเดียวกับสีที่คุณคิดจะเลือกใช้) บริเวณที่เคยมีคราบเชื้อราดังกล่าว ทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. จากนั้นจึงค่อยน้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่าต่อไป
การเตรียมพื้นผิวโลหะเหล็ก
– กรณีฟิล์มสีมีความเสียหายมาก ( ผิวด้าน / ปริล่อน / ร่วนเป็นฝุ่น ) ให้ลอกสีเดิมออกให้หมด โดยใช้น้ำยาลอกสี ( Paint Remover ) และล้างคราบน้ำยาลอกสีออกด้วยน้ำมันก๊าด หรือ ทินเนอร์ผสมสีน้ำมัน แล้วจึงขัดผิวด้วยกระดาษทรายอีกครั้งจนผิวเรียบร้อย จึงเริ่มทาสีรองพื้นต่อไป ( ไม่ควรปล่อยให้โลหะเหล็กที่ทำความสะอาดแล้วสัมผัสกับอากาศ / ความชื้นนาน ควรทาสีรองพื้นทันทีที่เตรียมพื้นผิวเสร็จ )
– กรณีที่ฟิล์มสีเสียหายไม่มาก หรือมีคราบสนิมขึ้นบางจุด ให้ขจัดคราบสนิมและฟิล์มสีบริเวณนั้นออก โดยใช้กระดาษทราย หรือเครื่องขัดจนถึงผิวเหล็ก แล้วทาสีรองพื้นกันสนิมบริเวณนั้นทันที, ส่วนบริเวณที่ฟิล์มสีเดิมอยู่สภาพดี ให้ขัดลูบด้วยกระดาษทรายให้ฟิล์มมีความหยาบ แล้วสามารถทาสีน้ำมันซ่อมแซมได้เลย
การเตรียมพื้นผิวไม้
– กรณีที่ฟิล์มสีมีความเสื่อมสภาพมาก ต้องขูด / ลอกสีโดยการขัดด้วยกระดาษทราย หรือใช้น้ำยาลอกสี ( หลังการลอกสี ให้แน่ใจว่าทำความสะอาดพื้นผิวไม้จนปราศจากคราบน้ำยาลอกสีแล้ว ), โดยหากส่วนใดมีรอยแตก ให้อุดโป้วด้วย สีโป้วประเภท วูด ฟิลเลอร์ แล้วขัดผิวให้เรียบกลมกลืนกับบริเวณรอบๆ
– กรณีที่ฟิล์มสีเดิมค่อนข้างดี ให้ขัดเบาๆ หรือลูบด้วยกระดาษทรายละเอียด ให้ฟิล์มมีความหยาบ แล้วจึงทำความสะอาดให้ปราศจากคราบไข ฝุ่น น้ามันหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ แล้วสามารถทาสีน้ำมันซ่อมแซมได้เลย
ระบบสี(อาคารเก่า)
สีรองพื้น : ทาด้วย"น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า" 1 เที่ยว เป็นสีน้ำมันใส เหลวพร้อมใช้ กลิ่นฉุน(พอสมควร) ทาให้ได้ประมาณ 35 ตรม./กล./เที่ยว, ทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชม.
สีทับหน้า : ทาด้วย"สีน้ำอะครีลิคชนิดภายนอก" อย่างน้อย 2 เที่ยว ทาให้ได้ 30-35 ตรม./กล./เที่ยว หรือประมาณ 150-175 ตรม./ถัง(5กล.)/เที่ยว
By: siriwatch /at/ captaincoating.com
Since: 8 พ.ย. 55 20:02:45
ควรทำสัญากันก่อนหรือไม่?
ก่อนอื่นควรคัดเลือกช่างสีก่อน เป็นอันดับแรก
ควรจัดหาช่างมาตีราคาอย่างน้อย 2 ราย, แต่คุณควรแจ้ง Scope งานและตกลงวิธีการทำงานให้เหมือนๆกันและชัดเจน
ช่าง : น่าจะหาช่างสีโดยเฉพาะ เพราะน่าจะได้คุณภาพงานดีกว่าช่างจำพวกที่ทำสารพัดอย่าง(ปูกระเบื้อง/ต่อเติม/ไฟฟ้า/ประปา)
วิธีหาช่างสี : สอบถามจากคนใกล้ตัวก่อน (ญาติ/เพื่อนบ้าน/เพื่อนที่ทำงาน/เพื่อนเก่า) หรือถามหาจากร้านสี(ที่คุณตั้งใจจะไปซื้อสี) อันนี้น่าจะได้การกลั่นกรองจากร้านระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะร้านสีก็ต้องสร้างเครดิตให้ตนเองเหมือนกัน
ไม่แนะนำหาช่างจากป้ายตามเสาไฟฟ้า หรือใบปลิวตามตู้โทรศัพท์ครับ (โอกาสที่จะได้ช่างมีคุณภาพน้อยครับ)
เมื่อได้ช่างสีที่คาดหวังซัก 1-2 ราย ก็ขอดูผลงานที่เพิ่งแล้วเสร็จ เพื่อจะได้ไปดูประกอบการพิจารณา (โดยหากได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของบ้านนั้นๆด้วยก็ยิ่งดี), ช่างที่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่ยินดีที่จะแจ้งผลงานให้ทราบหลายๆแห่ง และยินดีให้รายละเอียดนายจ้างให้ทราบด้วย, แต่หากช่างสีใดอิดๆเอื้อนๆเรื่องผลงาน อันนี้แย่ละครับ
คราวนี้พอคัดเลือกช่างสีได้แล้ว ก็ควรทำข้อตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร, เป็นสัญญาหรือกึ่งสัญญาก็ได้ (จะได้ไม่ต้องมาถกเถียงกันภายหลังเช่นกัน)
ตกลงเรื่อง"สี" ว่าใครเป็นผู้จัดซื้อ/จัดหา ดดยทั่วไปก็มักจะเหมาจ้างไป(รวมค่าสี+ค่าแรง+นั่งร้าน) ก็ต้องสรุปให้ชัดว่า ยี่ห้ออะไร?/รุ่นอะไร?
ค่างวดงาน(Town House) ถือว่าเป็นงานขนาดเล็ก ทำงานภายใน/ภายนอกไม่น่าเกิน 7 วัน
งวดแรก : หลังจากตั้งนั่งร้านและเตรียมพื้นผิวภายนอกแล้ว จ่ายไป 25%
งวดสอง : หลังจากทาภายนอกเสร็จ จ่ายอีก 25%
งวดสาม : หลังจากทาภายในเสร็จ จ่ายอีก 25%
งวดสุดท้าย : หลังจากตรวจความเรียบร้อย จ่ายอีก 25%
ควรกำหนดให้ช่างสีเก็บซากกระป๋องสีที่ใช้ ให้ตรวจนับจำนวนในงวดสุดท้ายด้วย, เป็นการป้องปรามการปลอมปน/โกงสี
ก่อนการทาสี ควรตรวจสภาพภาชนะสี ที่ช่างนำเตรียมเข้ามาใช้ ว่าตรงกับข้อตกลงกันหรือไม่? สภาพฝาถังสีมีการเปิด/แกะมาก่อนหรือไม่ และหากกำหนดได้ว่าขอสำเนาใบเสร็จการซื้อด้วยจะยิ่งดีครับ
By: siriwatch /at/ captaincoating.com
Since: 8 พ.ย. 55 20:25:20
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำครับ
By: krish
Since: 10 พ.ย. 55 18:12:02