ผลปรากฏว่า เมื่อนำไขควงตรวจไฟฟ้า ไปสัมผัสกับตัวถังคอมพ์Case)
แล้วยังปรากฏมีไฟฟ้าเดินอยู่(ขึ้นสีแดง) หมายความเช่นไรครับ
1. การเดินสายดินผิดพลาด
2. เดินไม่ผิด แม่จะเดินถูกก็จะปรากฏมีไฟฟ้าเสมอ
แล้วไฟฟ้าขนาดนั้นมันยังอันตรายกับคนที่ไปถูกมันหรือไม่ครับ
By: T
Since: 16 พ.ย. 55 12:36:55
หลักดินตื้นไป
ที่ยังมีไฟอยู่แสดงว่าความต้านทานไฟฟ้าของสายดินมันยังสูงกว่าหรือพอๆกับความต้านทานของคนยืนในบ้าน
เรื่องอันตรายไม่มีหรอก ไม่ได้ต่อสายดินก็ไม่มีอันตรายนะ ไฟรั่วจากคอมมันแค่รู้สึกจี๊ดๆ ดูดยังไงก็ไม่ตาย
By: oatcpe
Since: 16 พ.ย. 55 12:42:06
ลองเอามือแตะดูครับ ถ้าไม่ดูดก็เป็นอันใช้ได้ครับ
By: บองหลา
Since: 16 พ.ย. 55 12:52:17
บอกยากครับ ต้องดูหลายอย่างเลย
ต่อสายถูกที่ไหม
หลักดินเอาปักลงดินเรียบร้อยไหม
ืคือข้อมูลไม่มีอะไรเลย บอกไม่ได้เลยครับว่าเกิดจากอะไร
By: mkputon
Since: 16 พ.ย. 55 13:13:49
หลักดินยาวแค่ 1 เมตร ผมว่าสั้นเกินไปครับ
ถ้าจำไม่ผิดตอนทำระบบสายดินที่บ้านการไฟฟ้าเค้าให้ใช้ 2 เมตร, ฝังให้ปลายด้านบนจมลงไปในดิน 30 ซม., สายของหลักดินต้องใหญ่กว่าสายไฟเมนที่เข้าบ้าน, ควรใช้เมนหลักดินที่เดียว แล้วค่อยแยกสายดินย่อยไปยังอุปกรณ์ในบ้าน
ไฟฟ้าขนาดนั้น ผู้ใหญ่โดนก็แค่จี๊ด ๆ ถ้าเด็กเล็กอาจจะอันตรายเพราะผิวเด็กบางกว่าผู้ใหญ่ครับ
ถ้าแก้ปัญหาเรื่องสายดินไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากโดนไฟดูด แนะนำให้หาไม้มาทำพื้นบริเวณที่ต้องนั่งทำงานกับคอมพ์ตัวนี้ครับ
ตอนผมอยู่บ้านไม้คอมพ์ก็ไม่ได้ต่อสายดินก็ไม่โดนดูดครับ
By: durian to go
Since: 16 พ.ย. 55 13:53:18
ต่อสายดินทำให้มีค่าไฟเพิ่มขึ้นครับ
By: MaShow
Since: 16 พ.ย. 55 13:56:17
ตอนนี้ทำใหม่แล้วครับ ได้ผลดังนี้
1. อุปกรณ์คือ UPS(แรงอยู่) และ ตัวคอมพ์ ชุดที่สอง ต่อสายดินถึงหลักทดงแดงยาว 1 เมตร โดบต่อคนละสายไปบรรจบกันที่น๊อตหลักทองแดง ปักลงดินเมื่อทำเสร็จ นำไขควงดูไฟไปทดสอบที่UPS และตัวถังคอมพ์ ไม่มีไฟปรากฏขึ้น แสดงว่าถุกต้องแล้วใช่ไหมครับ
2. คอมพ์อีกตัว ชุดที่ 1 ตามกระทู้และที่ว่าไปตรวจแล้วไขควงยังแสดงไฟ โลหะที่ปักดินมันสั้นตามที่ คห 1. ว่าไว้ ตรงเผะเลยครับ เดี๋ยวจะแก้ไขใหม่ครับ
ใคร่ขอถามเพิ่มเติมครับ ตอนที่เอาปลายลวดทองแดงของสายดินของคอมพ์และ UPS ชุดที่สอง ไปยึดไว้กับหลักทองแดง ผมเอามือไปสัมผัสกับหลักและน๊อตของหลักทองแดง ไม่เห็นมันดูด(ใส่รองเท้าแตะ) เอาไขควงทดสอบไฟไปสัมผัสกับทองแดงไฟก็ไม่เห็นขึ้น ทำไมไม่มีไฟละครับ
By: จขกท
Since: 16 พ.ย. 55 15:01:50
เรียบร้อยครับ ผมนำปลายสายดินของคอมพ์ชุดที่ 1 ไปเชื่อมต่อที่หลักทองแดงที่เดียวกับของคอพ์และUPS ชุดที่สอง( ชุดที่ 1 UPS ไม่แรง จึงไม่ต่อสายดิน ต่อเฉพาะตัวคอมพ์)แล้วนำไขควงทดสอบไฟมาทดสอบที่เคสของคอมพ์ตัวที่หนึ่ง ไม่มีไฟปรากฏที่ไขควรแล้วครับ แสดงว่าต่อได้ผล
ตอนที่นำปลายสายดินไปสัมผัสกับลวดทองแดงของคอมพ์ชุดที่สองมันสปาร์คเลยครับ เสียงดัง
แฉ่เบาๆ เห็นประกายไฟสมใจ
By: จขกท
Since: 16 พ.ย. 55 15:30:01
อ้อ หลักดินเดิมของคอมพ์ชุดที่ 1 เป็นเพียงตะปูงอๆตัวหนึ่ง และฝังไว้ในดินตื้นๆเท่านั้นครับ
มันจึงใช้ไม่ได้
By: จขกท
Since: 16 พ.ย. 55 15:34:15
คอมยี่ห้อไร เนี่ย ดูดแรงขนาดนี้
น่ากลัว
By: SuperCrazyBoy
Since: 16 พ.ย. 55 16:52:15
คอมพ์จ้างร้านประกอบเองทั้งสองตัวครับ แต่Power Supply ค่อนข้างดีครับมีเกรด ใครมา
เห็นก็ชม คอมพ์ตัวที่ 1 ไม่เท่าไร แต่ตัวที่ 2 แรง เป็น I7 ครับ และUPS ก็แรงมาก ผม
ถูกไฟดูดจากคอมพ์และ UPS ตัวที่สองตลอดเลยต้องทำสายดินไว้เผื่อใครมาโดนด้วย
By: จขกท
Since: 16 พ.ย. 55 18:02:26
ติดสายดินนั้นปรกติต้องหาบริเวณที่ค่อนข้างชื้นและลงดินจริงๆครับถ้าพื้นดินแห้งก็เหมือนเป็นฉนวนครับไฟไม่ลงดิน
By: เจ้าชายอสูร (giantmodify)
Since: 16 พ.ย. 55 18:49:49
ผมก็เคยโดนคอมดูดตอนเอามือไปสัมผัสตัวเคส ก็จัดการเอาสายไฟต่อจากตัวถังไปต่อกับโ่ครงเหล็กใต้บันไดที่จมอยู่ในพื้นปูนก็หมดปัญหาไฟดูดครับ
By: เจ้าพ่อหลังเขา
Since: 16 พ.ย. 55 21:03:56
เห็นบางคนบอก ต่อไปลงกระถางต้นไม้ก็ได้ จริงหรือเปล่าไม่แน่ใจ
By: จขกท
Since: 17 พ.ย. 55 00:06:24
เรื่องของเรื่องคือ สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
โดยคร่าวๆ คือเราเอาไฟ 220 (ไฟบ้าน) ผ่านเข้าไปสวิตชิ่งนั้น
ตัวสวิตชิ่ง จะทำการผลิตกระแสไฟขึ้นมาใหม่
(แตกต่างจากหม้อแปลงขดลวด ที่ลดแรงดันลงอย่างเดียวและระบบกราวด์เดิม)
ฉะนั้นเวลาสวิตชิ่งสร้างไฟขึ้นมาใหม่ มันจึงสร้าง 0 โวลต์ หรือสายไม่มีไฟ
ขึ้นมาอีกชุดหนึ่งด้วย แต่ครั้นปรากฏว่า 0 โวลต์ในสวิตชิ่งนั้น มันดันมีศักย์(โวลต์)
ไม่เท่ากับดิน เวลาเราเอามือไปแตะหรือเอาไขควงไปวัดไฟ มันจึงดูด
เพราะมีความต่างศักย์ แต่มีแอมป์ต่ำมาก จึงไม่ดูดจนเสียชีวิต
สวิตชิ่งบางตัวในคอม เขาไม่พ่วงกราวด์(สามขา)มาลงที่กล่องสวิตชิ่ง จึงทำให้เราต่อกราวด์สามขา แต่เคสก็ยังมีไฟดูดอยู่ เพราะในเพาเวอร์ไม่ต่อกราวด์ลงที่กล่องเพาเวอร์ ผมจำไม่ได้แบบชัดเจนเหมือนกันว่าเหตุผลเพราะอะไร แต่คุ้นๆว่าเพื่อไม่ให้มีสัญญาณรบกวน เขาจึงตัดอะไรบางอย่างออกไป หรือว่าเพื่อลดต้นทุนอะไรบางอย่าง ทำให้กราวด์สามขาไม่ต่อกับกล่องเพาเวอร์
ปล. ไม่ได้จบไฟฟ้ามา ถูกผิดอย่างไร ขออภัยด้วยครับ ที่เล่ามาจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์เท่านั้น
By: นายยศ
Since: 17 พ.ย. 55 17:46:38
สายดินอย่างไรก็ต้องต่อลงดิน และต้องเป็นดินที่อยู่ติดกับพื้นโลกเราเท่านั้น ฝรั่งเรียก earth ground หรือพื้นโลก เราเรียกย่อกันว่ากราวด์ จนชิน
อย่างที่บอกกันมาแล้วว่าเป็นเรื่องของศักย์ทางไฟฟ้าที่ศูนย์โวลต์ในสวิตชิ่งมันไม่เท่า earth ground เพียงเท่านั้น แต่แอมป์ต่ำมาก ฉะนั้น เพียงแค่ต่อสายเส้นเล็กๆ เวลาผมไปออกงานชั่วคราวแล้วเจอไฟดูดก็ใช้เพียงแค่สายโทรศัพท์ พ่วงน็อตตัวไหนก็ได้ของเคส แล้วพันแท่งเหล็ก(หรือทแงแดงสายไฟ 2.5)ยาวสัก 1 ฟุต เสียบลงดิน รับรองว่าแค่นี้ก็ไม่ดูดแล้ว ถ้าดินแห้งเกินไป ก็หาน้ำถังนึงไปเทลงแท่งดินเรา ก็เป็นอันเรียบร้อย
By: นายยศ
Since: 17 พ.ย. 55 17:54:09
สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย ทุกแบบทีได้มาตรฐาน
จะมี Capacitor 2 ตัวต่ออนุกรมกัน ต่อ ระหว่าง Line , Neutral ตรงกลางจะต่อกับ Case นั่นคือมันแบ่งครึ่ง 220 โวลท์ (110 โวลท์ ) มาต่อที่ Case เพี่อกันสํญญาณรบกวน
เหตุผลที่โดนไฟดูด ประมาณว่าคุณไปจับไฟ 110 โวลท์ กรณีใช้ปลั๊ก 2ขา แต่ถ้าใช้ ใช้ปลั๊ก 3 ขา หรือต่อสายดินถูกต้อง ก็จะไม่โดนดูดโดยใช้หลักทองแดงยาว 1 เมตรที่ว่าก็ใช้ได้
By: TNT503
Since: 18 พ.ย. 55 22:06:18
ขอบคุณทุกท่านครับ
By: จขกท
Since: 19 พ.ย. 55 18:47:58