ทำไมเดี๋ยวนี้ ที่อยู่อาศัยราคาแพงจนไกลเกินเอื้อมไปทุกทีทุกที

ผมเฝ้าสังเกตมาหลายปีแล้วว่าราคาที่อยู่อาศัยไม่ว่าบ้าน หรือ คอนโด โดยเฉพาะคอนโด ราคามันขยับเร็วและแพงมาก ราคามันสมเหตุสมผลจริงหรือไม่ หรือพวกเรากำลังโดนนักการตลาดสร้างกระแส
เอารถไฟฟ้ามาป็นจุดขาย ทำให้เราเห็นความสำคํญของรถไฟฟ้ามากมาย ทั้งที่ในคอนโดแต่ละแห่งรถยนต์เต็มไปหมดจนแย่งกันจอด มีซักกี่คนที่อาศัยรถไฟฟ้าจริงๆในการเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือจะเป็นกลยุทธของเจ้าของโครงการในการสร้าง demand เทียมขึ้นมา เพื่อให้ดูเหมือนมีคนต้องการมากๆ ผสมโลงกับนักเก็งกำไรที่อาจจะเป็นจากทางโครงการเองสร้างขึ้นมาร่วมกับ การที่คนนอกเห็นว่าเป็นช่องทางทำมาหากินที่ง่ายเข้ามาผสมโลงด้วย คราวนี้โครงการเลยยิ่งสบายใหญ่มีคนมาช่วยดันราคาให้ ราคาก็เลยยิ่งปรับแพงขึ้นไปเรื่อยๆ คนที่ค้องการซื้อยู่จริงเลยต้องซื้อแพง ตั้งแต่เห็นมาก่อนๆในอดีตไม่เคยเห็นโครงการที่เวลาจะซื้อต้องเข้าคิวแย่งกันจองซื้อเหมือนของราคาไม่กี่บาท หรือต้องลงทะเบียนก่อนล่วงหน้าเลยซึ่งถ้าโครงการเห็นคนลงทะเบียนมากๆก็จะปรับราคาขายให้แพงขึ้น ตอนนี้โลกมันหมุนกลับ กลายเป็นผู้ซื้อต้องง้อผู้ขาย นี่ห้องแค่ 30 ตรมราคาก็ปาไปที่ 2-3 ล้านแล้ว เราคงต้องมีเงินเดือน 3-4หมื่น มั้งธนาคารถึงให้กู้ ผ่อนเสร็จ 25 ปีก็ต้องจ่าย 4-6ล้าน จะไหวมั้ยนี่ อยากให้มันกลับสู่สภาพความเป็นจริงเร็วๆจัง เราจะได้ซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่ยุติธรรม

By: มอนมร
Since: 16 พ.ย. 55 23:08:30

40 thoughts on “ทำไมเดี๋ยวนี้ ที่อยู่อาศัยราคาแพงจนไกลเกินเอื้อมไปทุกทีทุกที

  1. admin Post author

    เงินเฟ้อและฟองสบู่ นะครับ
    จขกท กำลังหวังว่ามันจะแตกในเร็ววัน
    ก็ลองเสี่ยงๆ ดูละกัน

    By: Vancin
    Since: 16 พ.ย. 55 23:25:22

  2. admin Post author

    เพราะเรารายได้ต่ำไปครับ
    นางจ้างกดค่าแรง
    พอเขาให้ขึ้น อีพวกลูกจ้างดันออกมาคัดค้านอีก ตลกมั๊ย

    By: QDora
    Since: 16 พ.ย. 55 23:48:24

  3. admin Post author

    อสังในไทยถือว่าโคตรถูกแล้วนะครับ ถ้าเทียบกับอีกหลายๆประเทศ เพื่อนผมอยู่ฮ่องกง มาเห็นบ้านผมมันบอกเลยถ้าอยู่ที่โน่น มีบ้านขนาดนี้เรียกว่าโคตรรวย ทั้งที่บ้านผมแค่ 5 ล้านเอง

    By: เออ
    Since: 16 พ.ย. 55 23:57:27

  4. admin Post author

    เปรียบไทยในอดีตกับไทยปัจุบันดีกว่าครับ อย่าเทียบต่างประเทศเลยครับรายละเอียดหลายเรื่องอยู่ ที่ต่างกัน

    By: benz2020
    Since: 17 พ.ย. 55 00:12:24

  5. admin Post author

    .
    .
    ผมว่าอย่าไปหวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ
    ตอนนี้ธนาคารไม่ได้ปล่อยกู้เละเทะแบบปี 40
    ราคาทุกวันนี้มันก็ขึ้นตามจริงอยู่แล้วครับ
    ยิ่งคุณรอ มันก็ยิ่งแพง

    และไม่ใช่ทุกวันนี้คนรายได้น้อยจะซื้อบ้านไม่ได้เลยซะหน่อย
    เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้าสะดวกสบาย
    ถ้าคุณรายได้น้อยก็ซื้อที่มันเหมาะสมครับ แค่นั้นเอง

    แต่อย่ามาอยากจ่ายน้อยๆแต่จะเอาทำเลดีๆ เอาเนื้อที่กว้างๆ
    มันก็คงไม่ได้ล่ะครับ

    By: rar chair
    Since: 17 พ.ย. 55 00:13:47

  6. admin Post author

    ใช่ ราคาแพงเว่อ ราคาเกินจริงอ่ะ

    ขึ้นที เป็นแสน แถมตอนนี้ ประเมิณราคาที่ดิน แพงขึ้นทั้งนั้น

    เอารถไฟฟ้ามาอ้าง เอาถนนใหญ่มาอ้างอีกด้วย

    เราว่า ทุกอย่างมันขึ้นแบบลูกโซ่อ่ะ พอย่างนึงขึ้น อีกอย่างก็ขึ้น
    เพื่อให้เกิดสมดุลในระบบ
    ทุกอย่างขึ้นไวมาก ยกเว้น เงินเดือน พูดแล้วก็โมโห TT_TT

    By: Flash_over
    Since: 17 พ.ย. 55 00:16:10

  7. admin Post author

    ผมมีที่อยู่บ้านนอกอยากไปปลูกบ้านอยู่ที่โน้นมากแต่พ่อแม่ไม่ยอม ก็มากระจุกกันอยู่ใน กทม.
    ดีมานมากกว่าซัพพลาย ราคามันก็ขึ้นเอาๆละครับคราวนี้

    By: Prattling
    Since: 17 พ.ย. 55 00:39:33

  8. admin Post author

    หมู่บ้านขึ้นกันยั้งกะเห็ด ไม่รู้คนมาจากไหนกัน งานนี้ โครงการรวย ธนาคารรวยไป >,<

    By: Flash_over
    Since: 17 พ.ย. 55 00:54:19

  9. admin Post author

    #3 ก็ว่าไปนั่น
    เปรียบเทียบ ไม่สมเหตุผล

    ฮองกงเป็นแค่เกาะเล็กๆ ที่ดินแัำพงอยู่แล้ว

    By: กดด
    Since: 17 พ.ย. 55 01:06:36

  10. admin Post author

    เพราะดีมานต์ของคนที่ซื้อไว้เก็งกำไรครับเพื่อหวังว่าจะขายได้ในราคาที่สูงขึ้นเพราะคิดเหมือนหลายๆคนว่าบ้านมีแต่ราคาขึ้น จึงทำให้ท่านซวยไปครับที่ต้องซื้อบ้านราคาแพง คล้ายๆกับคนที่ซื้อทองเพราะคิดว่ามันเป็น Safe Haven และมีแต่ราคาจะขึ้น แต่เดี๋ยวนี้ทองหาเป็นเช่นนั้นไม่เพราะคนซื้อ1900เหรียญยังติดดอยอยู่และเดี๋ยวนี้ทองเป็น 1 ใน Commodity ที่มีคนปั่นราคา ไม่ใช่ดีมานต์แท้ๆ

    หรือบางคนก็จองเพื่อขายใบจองต่อ ประเภททำนาบนหลังคนน่ะครับ

    คนอยู่จริงๆมีไม่เยอะครับ จะว่าดีมานต์เทียมก็ไม่เชิงเพราะบางคนรวยมีตังซื้อเพื่อเก็งกำไร คนนึงก็ซื้อไป 4-5ห้อง ห้องอย่างกะรูหนู คนรวยเค้าไม่อยู่หรอกครับ คนมัครอบครัวก็อยู่ไม่พอ

    ต้องรอให้พวกคนรวยที่ซื้อเก็งกำไรหมดกำลังซื้อไปก่อนครับ หรือให้เค้าซื้อเยอะจนปล่อยไม่ออกไปก่อน ราคามันก็จะไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อยไปเองครับ

    ภาวะนี้คือการปั่นราคาแน่นอน ไม่ใช่ดีมานต์แท้ แต่เป็นดีมานต์ที่เกิดจากคนมีตังมาซื้อเพื่อเก็งกำไร ฟองสบู่ไม่น่าจะเกิดได้ง่ายเหมือนปี40

    By: จุ๊บๆ
    Since: 17 พ.ย. 55 01:47:37

  11. admin Post author

    เปรียบเทียบกับ ฮ่องกง คิดได้เนอะ

    อย่าว่าแต่คอนโดเลย ทาวน์โฮมราคาไปเทียบชั้นกับบ้านเดี่ยวแล้วเดี๋ยวนี้ อยากจะกู้ซื้อบ้านแต่เห็นราคา ที่พุ่งขึ้นต่อปี แต่ล่ะโครงการ 3-4 แสน บางโครงการไม่ถึง 3-6 เดือนขึ้นราคาแล้ว 3แสน ตอนนี้เลยไม่อยากได้บ้านเลย

    เลยอยากสร้างบ้านเองที่ ตจว เพราะใน กทม มีแล้วหลังเล็กๆ ของพ่อแม่

    By: longtime
    Since: 17 พ.ย. 55 02:26:55

  12. admin Post author

    ผมว่าราคาบ้านและที่ดินยังขึ้นไปได้อีกเยอะเลยครับ พลเมืองมากขึ้น คนต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองมีมากขึ้น คนทำไร่ทำสวนลดลง พวกมิจฉาชีพก็เยอะ ส่วนมากต้องการอยู่ในเมืองลูกต้องเรียนต้องทำงานในเมือง อยู่ไกลไม่ไหวเพราะเดินทางลำบากเหนื่อยและค่าใช้จ่ายสูง ไม่อยากเข้าเรื่องการเมืองเลยครับ แต่รัฐบาลชุดนี้มันบริหารประเทศได้แย่มาก ที่สุดของการโกงกิน ที่สุดของหน้าด้าน มากอบโกยแล้วก็ไป เอาเงินภาษีมาแจกคนจนเอาหน้าปิดหูปิดตาประชาชน คนจนก็รอให้ช่วยจนเสียนิสัยจะเอาแต่ได้เห็นแก่ตัว .. อนาคตคงมีแค่คนกลุ่มที่มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้นที่ร่ำรวยสุขสบาย

    By: คนเซ่อ
    Since: 17 พ.ย. 55 05:45:05

  13. admin Post author

    คห12
    รัฐบาลโกงกินมันเกี่ยวอะไรกับราคาบ้าน? รัฐบาลไหนๆบริหาร ราคาบ้านมันก็ขึ้นอยู่แล้วไม่ใช่รึ?

    "ไม่อยากเข้าเรื่องการเมือง" แต่ด่าแบบไม่สัมพันธ์กับคำถามของกระทู้เลยนะ ถ้าด่าแบบยกเรื่องให้มันสัมพันธ์กับหัวข้อกระทู้ผมจะไม่ว่าเลย เจือกแอบด่าคนจนอีกนะ

    ต้องโดนยึดอมยิ้มเลยน่ะคุณ นิสัยเสีย น่ารังเกียจ

    By: จุ๊บๆ
    Since: 17 พ.ย. 55 07:06:03

  14. admin Post author

    มีคนที่พูดว่า สมัยก่อนแถวนี้บ้านที่ดินราคาไม่แพง เราน่าจะซื้อไว้
    แต่ย้อนคิดดีๆ สมัยโน้นเราก็ซื้อไม่ได้อยู่ดี เพราะราคามันไม่ได้ถูกเลยในเวลานั้น
    สรุปว่ามันแพงขึ้นเป็นปกติ ตามช่วงเวลา ตามค่าของเงินที่เปลี่ยนไป ไม่ได้แพงเว่อร์  ถ้าแพงเว่อร์มันจะขายออกเหรอ

    ถ้าสมัยก่อนบ้านที่ดินมันถูกจริง รุ่นพ่อแม่เราทุกคนคงมีบ้านมีที่ดินเยอะแยะ อยู่บ้านเนื่อที่กว้างๆกันหมดแล้ว

    By: Coolzero
    Since: 17 พ.ย. 55 09:04:07

  15. admin Post author

    จะพูดเรื่องการเมือง แตกไปกระทู้ไปให้ถูกห้องมั้ย แปะลิ้งค์มา เดี๋ยวจะตามไป

    เห็นด้วยกับ 13 เอามาพูดทำไม เกี่ยวไรกับบ้าน

    ที่บ้านมันขึ้น มันก็มีปัจจัยหลายๆ อย่าง
    เช่น
    ราคาที่ดินที่สูงขึ้น จากการประเมิณราคาใหม่ ถนนหลัก ถนนที่มีแพลนจะมีรถไฟฟ้า
    ค่าแรง พนง ที่สูงขึ้น ค่าวัสดุก็สูงขึ้น

    ส่วนที่โครงการบวกเพิ่ม แบบไร้สาระ อันนี้ มันก็แล้วแค่เราตัดสินใจ ยอมรับได้หรือไม่ โครงการติดกัน สร้างห่างกัน ไม่นาน ราคาก็ต่างกัน เป็นแสนแล้ว…

    จากประสบการณ์ตรงเลยนะ
    ราคานี้ ตัวอย่างนะ

    เฟส A ราคา 3 ล้าน
    เฟส B pre-sale 3.4 ล้าน มีส่วนลดให้ 50000
    เฟส B หลัง pre-sale 3.4 ล้าน + เพิ่ม 50000 มีส่วนลดให้ 30000
    เฟส C 3.4 ล้าน + เพิ่ม 50000 + เพิ่ม 2 แสน ไม่มีส่วนลดให้ 30000

    ระยะเวลาห่างกัน จากเฟส A มา B ไม่ถึง 1 ปี
    สรุป ซื้อก่อนยังไงก็ถูกกว่า….

    ยิ่งแถวไหน ประเมิณราคาที่ใหม่ ปรับเยอะ ราคาขึ้นเพียบ

    โครงการเดียวกัน เพื่อนซื้อ 5 ล้าน ผ่านไป ไม่ถึงปี ราคาใหม่ 6 ล้านกว่าแล้ว เว่อร์มั้ย??? !!!

    By: Flash_over
    Since: 17 พ.ย. 55 09:11:13

  16. admin Post author

    เห็นด้วยครับ ผมซื้อคอนโดตอนเปิดโครงการ 1.29 ล้าน เผลอมาสามเดือน 1.49 ล้านบาท

    By: Rambutan (nessuzzura)
    Since: 17 พ.ย. 55 09:36:23

  17. admin Post author

    คห2 ต้องทำให้ข้าวของมันถูกลงคะ ไม่ใช่มาขึ้นที่ค่าแรง หรือเงินเดือน เพราะราคาของมนปรับขึ้นตามรายได้คะ

    By: พญาอินทรีย์น้อยทำรังแต่พอตัว (แมวปัง)
    Since: 17 พ.ย. 55 09:54:18

  18. admin Post author

    ก็แพงครับ

    ถ้ามองที่ดินบ้านนอกไร่ละ 30,000 สุดปลายนา ติดป่าเขา

    แต่ไม่มีทักษะการใช้ชีวิต ก็หนักใจอยู่บ้าง ฝึกฝนกันไป ก็ไม่แน่อาจจะเป็นสวรรค์ที่แท้จริง

    By: เลือนลางร่ำไร
    Since: 17 พ.ย. 55 10:51:17

  19. admin Post author

    มันถูกลงได้ ถ้าเราปิดประเทศ
    แต่ในความเป็นจริง ทำไม่ได้
    ทรัพยากรหลายๆอย่าง เราซื้อจากต่างประเทศ เขาขายให้เราแพง เช่น น้ำมัน
    ทั้งโลกของแพง เราจะถูกยังไง
    มอง มหภาคดูครับ

    By: QDora
    Since: 17 พ.ย. 55 11:04:46

  20. admin Post author

    เห็นด้วยกับคห. 2 ที่ว่าเราถูกนายทุนกดค่าแรง
    มันตามไม่ทันเงินเฟ้อแล้ว
    เงินเดือน หมื่น ถึงสองหมื่นเนี่ย เท่าสมัยยี่สิบปีที่แล้วเลย
    แต่ราคาที่ดินพุ่งไปไกลแล้ว
    ค่าน้ำมันที่เป็นต้นทุนสำคัญ เพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดอยู่แล้ว
    พอต้นทุนสินค้าเพิ่ม ราคาสินค้ามันก็สูงตาม
    จะให้ราคาสินค้าถูกลงมันเป็นไปไม่ได้หรอก   มีแต่ค่าแรงนี่แหละที่คงเดิม

    By: music&lyric and cats
    Since: 17 พ.ย. 55 11:27:45

  21. admin Post author

    เห็นหลายท่านไม่เห็นด้วยเรื่องการเปรียบเทียบกับฮ่องกง  ผมกลับคิดว่าเปรียบเทียบกับฮ่องกงหนะถูกต้องแล้ว   เพราะพื้นที่ ๆ ทีการคมนาคมดีสาธารณูปโภคไปถึงและมีแหล่งทำงานรายได้ดีในประเทศเราก็กระจุกกันอยู่แค่พื้นที่นิดเดียวของประเทศ  แล้วไอ้พื้นที่กระจุกเล็ก ๆ นี้ก็มีแต่จะพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ   แถมเป็นเหมือนไข่แดงของประเทศ  ที่อื่นน้ำท่วมได้ที่นี่ห้ามท่วม   แล้วมันต่างอะไรกับเกาะเล็ก ๆ หละครับ    แต่เจ้าของกระทู้ครับ  ที่อยู่อาศัยในไทยที่ราคาถูก ๆ ยังมีอีกเยอะครับ  เมื่อสองปีก่อนผมเพิ่งซื้อทาวเฮาส์มาหลังหนึ่ง  เจ้าของบอกว่าราคาไม่ต่างจากสิบกว่าปีก่อนเท่าไหร่เลย   และตอนนี้ห้องใกล้ ๆ กับผมก็ยังขายราคาเดิมอยู่    แต่อยู่นอกเมืองของต่างจังหวัดนะครับ  คิดเอาเองแล้วกันว่าไกลขนาดไหน  ฟังแล้วน่าซื้อไหมครับ…555

    By: marupong
    Since: 17 พ.ย. 55 13:24:07

  22. admin Post author

    ถ้าเขาขายได้ ก็แสดงว่าเงินเดือนคุณน้อยกว่ามาตรฐานคอนโดหรืออสังหาที่คุณมองไว้ไงครับ

    อุปสงค์ อุปทาน มันเป็นไปตามตลาดอยู่แล้ว เขาแย่งกันซื้อ แสดงว่าคนที่ซื้อได้ก็มีเยอะครับ

    By: [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน
    Since: 17 พ.ย. 55 13:31:52

  23. admin Post author

    ไม่ให้เปรียบเทียบกับฮ่องกง แล้วจะให้เปรียบเทียบกับอะไร? ธิเบต?

    กรุงเทพเป็นเมืองลักษณะเดียวกับฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ โตเกียว

    คือหนาแน่น คนแย่งกันอยู่ เป็นแหล่งกระจุกตัวของเงิน

    ถ้าคุณมีบ้านเดี่ยว มีสนามหญ้า อยู่ในเมืองต่างประเทศที่กล่าวด้านบน ถือว่าคุณเป็นเศรษฐีแล้ว

    เพราะคนชั้นกลางในเมืองเหล่านั้น เขาอยู่บนแฟลต พื้นที่ 25 ตารางเมตร นั่งรถไฟใต้ดินไปทำงาน

    By: rp
    Since: 17 พ.ย. 55 20:42:04

  24. admin Post author

    มันจะเปรียบเทียบกับฮ่องกงได้อย่างไร รถไฟฟ้าก็มีน้อยกว่า พื้นที่กรุงเทพก็มีมากกว่า คนกรุงเทพได้เงินเดือนน้อยกว่า คนกรุงเทพแย่งกันอยู่เหรอ? ผมคิดว่าไม่อะ

    By: จุ๊บๆ
    Since: 17 พ.ย. 55 22:30:35

  25. admin Post author

    ก็เพราะรถไฟฟ้ามีน้อยกว่า พื้นที่ก็มีมากกว่า คนชั้นกลางในกรุงเทพถึงยังพอมีปัญญาซื้อทาวน์เฮาส์หรือบ้านเดี่ยว และมีรถยนต์ขับได้ยังไงล่ะท่าน

    ถ้าเป็นคนฮ่องกง ไม่มีทางหรอก ทำงานแบบเดียวกัน ถึงจะมีเงินเดือนมากกว่า แต่ราคาบ้านยิ่งมากกว่ามาก

    แล้วถ้าคนกรุงเทพไม่แย่งกันอยู่ มันก็ไม่มีกระทู้นี้ตั้งแต่ต้นหรอก

    By: rp
    Since: 17 พ.ย. 55 22:58:19

  26. admin Post author

    คห.26
    คุณโพสอันแรกว่า "ไม่ให้เปรียบเทียบกับฮ่องกง แล้วจะให้เปรียบเทียบกับอะไร? ธิเบต?กรุงเทพเป็นเมืองลักษณะเดียวกับฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ โตเกียว"

    อีกอันที่คุณโพส "ก็เพราะรถไฟฟ้ามีน้อยกว่า พื้นที่ก็มีมากกว่า คนชั้นกลางในกรุงเทพถึงยังพอมีปัญญาซื้อทาวน์เฮาส์หรือบ้านเดี่ยว และมีรถยนต์ขับได้ยังไงล่ะท่าน
    ถ้าเป็นคนฮ่องกง ไม่มีทางหรอก ทำงานแบบเดียวกัน ถึงจะมีเงินเดือนมากกว่า แต่ราคาบ้านยิ่งมากกว่ามาก"

    ก็ไหนบอกให้เทียบกับฮ่องกงไงท่าน ผมถึงบอกว่ากรุงเทพไม่ได้เป็นเมืองลักษณะเดียวกับฮ่องกงเลยที่จะทำให้ราคาแพงเยี่ยงนี้เมื่อเทียบกับรายได้ของคนกรุงและปัจจัยอื่นๆ

    คือมันจะเปรียบเทียบราคาบ้านไทยกับฮ่องกงได้ยังไง ในเมื่อคุณเองยังเขียนขัดแย้งในความเห็นข้างต้น ในเมื่อปัจจัยแวดล้อมมันไม่เหมือนกัน มันจะเปรียบเทียบกันยังไงท่าน

    กระทู้นี้เค้าถามว่าทำไมที่อยู่อาศัยมันแพงขึ้นมากไม่ใช่เหรอ? คุณว่าที่ราคาขึ้นเพราะคนกรุงแย่งกันอยู่เหรอครับท่าน เปล่าเลยครับ เก็งกำไรทั้งนั้น

    By: จุ๊บๆ
    Since: 18 พ.ย. 55 01:13:03

  27. admin Post author

    รถไฟฟ้ามันยังไม่มี network effect มากพอ เค้าบอกยังงั้น
    ถ้ารถไฟฟ้ามาครบ 10 สายเมื่อไหร่ จะกลายเป็นเรื่องจำเป็น

    ถ้าดูต้นทุน
    ค่าที่ดิน > มีการเก็งกำไรในประเทศ ส่วนนึงก็เก็งไว้ในรูปคอนโดรอขายต่างชาติ
    ค่าแรงก่อสร้าง > อสังหาขายดี แรงงานขาดแคลน โอกาสอัพค่าตัวได้อีก
    ค่าวัสดุ > ขึ้นตามราคาน้ำมัน ซึ่งก็เก็งกันอยู่ทั่วโลก

    By: Avexiouz
    Since: 18 พ.ย. 55 01:14:40

  28. admin Post author

    เพิ่งจะรู้ แค่เรื่องบ้าน เรื่องที่ดิน มันมีทฤษฏีสมรู้ร่วมคิดซ่อนอยู่เหรอเนี้ย
    โอ้วโลกนี้ช่างน่ากลัว มีกลุ่มอำนาจ คอยซ่อนอยู่ในเงามืด ปั่นกระแสโลกอยู่เหรอเนี้ย

    ปล1. รถไฟฟ้าไม่สำคัญจริงๆ เหรอ แล้วไอ้ที่อัดเป็นปลากระป๋องทุกเช้ามันอะไร
    ปล2. มันเป็นไปตามวงจรของมันครับ ประเทศไทยไม่มีใครเก่งพอ ที่จะแอบปั้นเรื่องพวกนี้อยู่ในเงามืดหรอกครับ และพวกองค์การต่างๆ ก็ไม่สามัคคีกันพอที่จะมารวมหัวปั่นราคาหลอกประชาชนหรอกมัน องค์กรพวกนี้เสียประโยชน์นิดเดียวก็กัดกันเอง้ว

    By: เจ้าชายใจเย็น
    Since: 18 พ.ย. 55 01:41:01

  29. admin Post author

    ปัจจัยทั้้งบ้าน และรถ ตอนนี้ อยู่ในความควบคุมของกลุ่มทุนการเมือง แสวงหาเม็ดเงินการอย่างง่ายได้

    คนชั้นกลาง ชั้นล่าง เป็นได้แค่ลูกหนี้ชั่วชีวิต

    By: องค์ประกอบศิลป์
    Since: 18 พ.ย. 55 03:07:37

  30. admin Post author

    คห.29
    คุณรู้หรือเปล่าว่าใครมีที่ดินมากที่สุดในกทม.?

    1. บ.บ้านต่างๆเขาก็อยากขายได้ราคาสูงๆ
    2. ไหนจะพวกทำนาบนหลังคนอีก
    3. ที่ดินเจ้าขุนมูลนายสมัยก่อนในเมืองที่ตกทอดมาสู่ลูกหลานอีกล่ะ เจ้าของที่ดินที่ตกทอดมานั้นก็พวกบิ๊กๆ ไฮโซในสังคม
    4. รัฐก็เก็บภาษีตอนขายได้สูงขึ้นอีก
    5. บ.ก่อสร้างบ้านก็สามารถมีกำไรมากขึ้น

    ทำไมจะร่วมมือกันไม่ได้ ผลประโยชน์ร่วมกัน

    คนรับเคราะห์คือชนชั้นกลางที่อยากมีบ้านอยู่จริงๆ

    คุณคิดว่าดีมานต์คนอยากได้คอนโด-บ้านอย่างเดียวทำให้ราคาบ้าน-ที่ดินสูงขึ้นได้มากขนาดนี้เหรอ?

    By: จุ๊บๆ
    Since: 18 พ.ย. 55 07:05:12

  31. admin Post author

    คห.27

    ถึงแม้ว่ากรุงเทพมีรถไฟฟ้าน้อยกว่า พื้นที่มีมากกว่า แต่มันก็ยังเป็นเมืองลักษณะเดียวกับฮ่องกง

    คือเหมือนเมืองใหญ่ในเอเชียเมืองอื่นๆ ที่เป็นประเภท Emerging Market ที่มีคนอยู่หนาแน่นอยู่แล้ว และมีคนต้องการที่จะเข้าไปอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไม่อยากอยู่ชนบท เพราะชนบทจน คนไม่มีอะไรจะทำ

    ไม่เหมือนเมืองในอเมริกา หรือยุโรป ที่เป็น Developed Economy ที่ประชากรเมืองค่อนข้างคงที่ หรือคนอยากออกจากเมือง เช่น Detroit และสามารถอยู่ชนบทหรือเมืองเล็กได้ เพราะถึงจะเล็ก แต่มีเศรษฐกิจรองรับ เพราะความเจริญมันกระจายตัวไปถึง

    สำหรับกรุงเทพ (และฮ่องกง) ในเมื่ออัตราของคนที่ต้องการจะเข้าไปอยู่มันเพิ่มขึ้น แต่การก่อสร้างมันเพิ่มขยายออกข้างไม่ได้ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ประปา คมนาคม มันไม่สามารถโตได้เร็วเท่า

    เมืองกรุงเทพมันจึงต้องโตขึ้นฟ้า ไม่ใช่เฉพาะ Business แต่รวมถึง Residential ด้วยเหมือนฮ่องกง (ถ้าไปดูเมืองใหญ่ๆ ในอเมริกา ตึกสูงๆ ส่วนใหญ่จะเป็น Downtown Business ไอ้ประเภทคอนโดสูง 50 ชั้นไม่ค่อยจะมีหรอก)

    ซึ่งก็หมายความว่า ลักษณะการโตของราคาที่ดิน และราคาบ้าน จะเหมือนกับฮ่องกง ไม่เหมือนกับเมืองในอเมริกา นั่นก็คือในกรุงเทพราคาจะแพงมากๆ เมื่อเทียบกับรายได้ เพียงแต่ปัจจุบันยังไม่แพงถึงขั้นฮ่องกงเท่านั้นเอง

    ถ้าคุณคิดว่าตอนนี้เป็นฟองสบู่เก็งกำไรเหมือนสมัยน้าชาติ และหวังว่ามันจะแตกเร็วๆ นี้ คุณอาจจะผิดหวัง เพราะจากวันนี้ไปอีก 5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจ South East Asia จะโตเร็วที่สุดในโลกจากการบริโภคภายในของคนชั้นกลางรุ่นใหม่ และเมื่อ AEC เปิด Demand ของคนที่ต้องการจะอยู่ในเขตเมืองมีแต่จะเพิ่มขึ้น

    ผมเกรงว่า กว่าฟองสบู่จะแตก อาจต้องรอประมาณ 10 ปี

    By: rp
    Since: 18 พ.ย. 55 07:23:49

  32. admin Post author

    คห 31
    ใช่ครับ เพราะ ดีมานครับ

    เมื่อก่อนข้าวแกง 10 บาท ตอนนี้ 30 บาท
    เกินเท่าตัว
    โอ้ว ต้องมีกลุมนายทุนอยู่อบื้องหลังแน่ๆ โลกช่างน่ากลัว

    ถ้าคิดแบบนี้ ว่ามีพวกกลุ่มคนรวยรวมพลังกันเอาเปรียบคนจน ก็คงโดนเอาเปรียบทุกเรื่องละครับ
    และถ้าคนรวยเอาเปรียบจริง แล้วชนชั้นกลาง ทำไรได้ครับ
    ในเมื่อเขามีพลัง ปรุงแต่งระบบเศรษฐกิจได้ตามใจแบบนี้

    แนวคิดแบบนี้ ทฤษดีแบบนี้ ผมว่ามันคุยกันลำบากนะครับ
    เดากันไปเอง ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นอัน จับโน่นนี้มาผูกกัน และก็ไม่เห็นมีทางแก้ไข นอกจากกล่าวหาคนอีกกลุ่ม

    By: เจ้าชายใจเย็น
    Since: 18 พ.ย. 55 08:19:22

  33. admin Post author

    ว่าแต่ใครมีที่ดินมากที่สุดในกทม. ครับ  ปล.ใช่ที่เกี่ยวกับนำ้เมาหรือเปล่าครับ

    By: ongreen
    Since: 18 พ.ย. 55 12:03:09

  34. admin Post author

    ข้าวแกงกับอสังหาริมทรัพย์นี่มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ คนขายข้าวแกงเขาปรับราคาตามต้นทุนครับ แต่อสังหาฯ กลุ่มทุนอาจมีส่วนด้วยก็ได้ครับ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แม้จะไม่มีหลักฐาน เหมือนนโยบายรถคันแรก

    By: อาคารกระดาษ (อาคารกระดาษ)
    Since: 18 พ.ย. 55 13:52:45

  35. admin Post author

    คห.32
    ผมเขียนไว้เรื่องฟองสบู่ว่าไม่น่าจะเกิดได้ง่ายเหมือนปี40 เพราะมันถูกปั่นโดยกลุ่มคนมีเงินครับ มันไม่ได้ถูกปั่นโดยพวกจับเสือมือเปล่าเหมือนปี40

    มันไม่เหมือนฮ่องกงเลยซักนิดเดียวครับ ฮ่องกงมันเป็นเกาะ เป็นเขตปกครองพิเศษ มันขยายไปไหนไม่ได้แล้วครับ ไม่เหมือนกรุงเทพ ถ้าเต็มมากก็ขยายออกไปได้อีกเรื่อยๆ แค่ทำสาธารณูปโภคให้รองรับได้ ดังเช่นอินชอนที่ถูกตั้งขึ้นมาเพราะโซลหนาแน่นเกินไป

    "Emerging Market ที่มีคนอยู่หนาแน่นอยู่แล้วมีคนต้องการที่จะเข้าไปอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไม่อยากอยู่ชนบท เพราะชนบทจน คนไม่มีอะไรจะทำ"—–แน่ใจเหรอครับ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ อื่นๆอีกหลายเมือง มันเริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน ตามเมืองใหญ่ๆตจว.ไม่ใช่กะโหลกกะลาแล้วครับท่าน ไม่งั้นเซ็นทรัลพัฒนาจะไปตั้งห้างหรูขายของได้อย่างไร

    อัตราคนย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายเมื่อเทียบกับราคาบ้าน-ที่ดินครับ

    By: จุ๊บๆ
    Since: 19 พ.ย. 55 00:09:26

  36. admin Post author

    คห.32
    ประชากรกรุงเทพมหานครมีการย้ายออกมากกว่าย้ายเข้า กล่าวคือ มีจำนวนประชากรที่ย้ายเข้ามาในเขตกรุงเทพมหานคร มีจำนวน 376,532 คน คิดเป็นอัตราการย้ายเข้าต่อพันคนเท่ากับ 82.07 จำนวนประชากร ที่ย้ายออก 408,440 คน คิดเป็นอัตราการย้ายออกต่อพันคนเท่ากับ 85.28 จำนวนการย้ายถิ่นสุทธิเท่ากับ -18,761 คน

    เมื่อพิจารณาตามกลุ่มพื้นที่เขต พบว่าการย้ายถิ่นสุทธิของประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเมืองชั้นในของกรุงเทพมหานครเกือบทุกเขต มีจำนวนผู้ย้ายออกมากกว่าจำนวนผู้ย้ายเข้า ยกเว้น เขตยานนาวาและเขตจตุจักรที่มีจำนวนผู้ย้ายเข้ามากกว่าผู้ย้ายออก

    อ้างอิง หัวข้อการย้ายถิ่น
    http://203.155.220.230/info/NowBMA/frame.asp

    ข้อมูลข้างบนนี้ผมไม่รู้ปีไหน แต่ข้อมูลต่อไปนี้ มาจากกรมการปกครอง ปี 54

    จำนวนการย้ายเข้าปี54 กรุงเทพมหานคร 364,738 คน
    http://stat.bora.dopa.go.th/xstat/tran/movein5410_01.html

    จำนวนการย้ายออกปี54 กรุงเทพมหานคร 404,507 คน
    http://stat.bora.dopa.go.th/xstat/tran/moveout5410_01.html

    เมื่อคนย้ายออกจากกทม.มากกว่าย้ายเข้าแล้วมันจะแย่งกันอยู่ได้อย่างไร?

    ในขณะที่ฮ่องกง ประชากรเค้าเพิ่มขึ้นทุกปี

    ราคาที่ดิน-บ้านในเมืองแพงขึ้นมากเพราะดีมานต์?

    By: จุ๊บๆ
    Since: 19 พ.ย. 55 00:28:58

  37. admin Post author

    คห.33
    ราคาข้าวมันขึ้นตามวัตถุดิบ ตามค่าแรง ตามน้ำมัน ตามค่าแก๊ส

    คุณว่าราคาที่ดินเขาใหญ่ ขึ้นเพราะอะไร? ตอนนี้คนอยากย้ายไปอยู่เขาใหญ่ขนาดนั้นเชียว? หรือเพราะกลุ่มทุนไปซื้อเก็งกำไรไว้ก่อน แล้วปั่นกระแส+สร้างช๊อปปิ้งมอลล์เพื่อมีเหตุผลให้ราคามันขึ้น คนซื้อที่ดินเขาใหญ่ได้ไปอยู่มั่งป่ะ ไม่ใช่เขาซื้อเก็งกำไรไว้หรอกรึ?

    ขนาดโลหะทอง-เงินในตลาดโลกยังมีคนกำหนดราคาได้ นับประสาอะไรกับราคาที่ดิน โถ่ถัง

    By: จุ๊บๆ
    Since: 19 พ.ย. 55 00:42:01

  38. admin Post author

    คห.10 ให้ข้อคิดดี นั้นแหล่คือความจริง..ราคามันปั่น..
    มันใช่ Demand ที่แ้ท้…

    ในโลกนี้ไม่มีอะไรถูกลง…มีแต่ราคาขึ้น..
    ถ้าคิดจะซื้อก้อรีบซื้อ..เพราะหวัง ฟองสบู่คงยากเดี๊ยวนี้เพราะมีหลายปัจจัย..

    By: javabean
    Since: 19 พ.ย. 55 13:32:49

  39. admin Post author

    นนั่นสิ เราก็งงนะ

    ปี 2535 แม่เราซื้อบ้านย่านปิ่นเกล้า ขนาด 16 ตร.ว. ราคา 6 แสน
    ปี 2545 พี่ชายเราเพิ่งเรียนจบ เป็นสถาปนิก เริ่มงานเงินเดือน 12k
    ปี 2554 เพื่อนเราเพิ่งเรียนจบ เป็นสถาปนิก เริ่มงานเงินเดือน 12 – 17k
    ปี 2555 แม่เราขายบ้านหลังเดิม ขายได้ราคา 1.9 ล้าน จ่ายสด (บ้านโทรมเพราะอยู่มา 20 ปี)

    มันเกิดอะไรขึ้นหว่า o_o

    By: SICKHEART
    Since: 25 พ.ย. 55 03:44:23

Leave a Reply