ขอคำแนะนำเรื่องการเลือกธนาคาร (เช็คจาก Homebuddy มาแล้วครับ)

ผมได้เข้ามาศึกษาข้อมูลเรื่องดอกเบี้ยธนาคารและมีเพื่อน ได้แนะนำให้ไปดู
ในเวปนี้

http://www.homebuddy.in.th/ReportBytotal.aspx?bankId=ALL&Page=1

ซึ่งผมก็เลือกแล้วเป็น ธอส (เพราะผมมีสวัสดิการ) 0% 9 เดือน เดือนที่ 10-24 =-2% จากนั้น -1% ตลอดอายุสัญญา
(MLR = 7.125%) การขอเป็นแบบ Fast Track ธอส ไม่ต้องตรวจประเมินบ้านจริง

ขั้นตอนการขอกู้ผมได้ไปขอ Statement จากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ธนาคารแห่งนี้ จึงเสนอให้ผมกู้กับเขา และได้เสนอเดอกเบี้ยดังนี้

0.5% ใน 12 เดือนแรก (ถ้าทำประกันด้วย ถ้าไม่ทำประกันจะเป็น 0.75%)
จากนั้น เดือนที่ 13 ขึ้นไป ตลอดอายุสัญญา จะเป็น -1.1%
(MLR = 7.0%) และ ฟรีค่าประเมินบ้าน

สิ่งที่ทำให้ผมต้องคิดมีดังนี้

1. จากข้อมูลที่ผมมี ผมจึงลอง ใส่ข้อมูลใน เวป ที่ให้มาด้วย ทำให้ได้ข้อสรุปว่า ในระยะยาว (15 ปี) ธนาคารพาณิชย์แห่งนี้ จะมีดอกเบี้ยที่ถูกกว่า (แต่ไม่มากนัก 40,000-50,000บาท)

2. ธอส เสนอว่า เขาคิดค่าทำเนียมจากการกู้ซึ่งรวมแล้วเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพียง 0.1 % (หรือคิดเป็นเงิน 2,000 บาท)  แต่ ธนาคารพาณิชย์แห่งนี้ คิด 1% (ซึ่งคิดเป็นเงิน20,000 บาท) แต่ผมไม่แน่ใจว่าต้องมีค่าอื่นๆ อีกไหม (เฉพาะค่าใช้จ่ายของธนาคาร)

3. สรุปคือ ถ้าคิดระยะสั้น ดอกเบี้ยของ ธอส จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ถูกกว่า (คิดเฉพาะค่าใช้จ่ายของธนาคาร) แต่ถ้าคิดในระยะยาว ของธนาคาร พาณิชย์ แห่งนี้จะถูกกว่า (อาจจะไม่มาก)

ดังนั้น ผมจึงขอความคิดเห็น และแนวคิดจากเพื่อนๆ ว่าผมควรเลือกธนาคารไหนดีกว่ากันครับ ระหว่าง ธอส และ ธนาคารพาณิชย์ แห่งนี้

ปล.ธนาคาร พาณิชย์ที่ผมพูดถึง ไม่ใช่ ไทยพาณิชย์ (SCB) นะครับ

By: Thunke8
Since: วันลอยกระทง 55 17:35:23

3 thoughts on “ขอคำแนะนำเรื่องการเลือกธนาคาร (เช็คจาก Homebuddy มาแล้วครับ)

  1. admin Post author

    ธอส ครับ
    ไม่ต้องคิดระยะยาวครับ คิดแค่ 3 ปีพอ
    หลังจากนั้นจะรีไฟแนนซ์ หรือจะขอปรับลดดอกได้ ไม่ต้องเสียดอกแพงครับ

    By: โฮกป๊ก
    Since: วันลอยกระทง 55 17:43:29

  2. admin Post author

    ตามความเห็นข้างบนครับ
    ให้คิดที่ 3 ปีพอครับ เหตุผลเพราะ ดอกเบี้ยเกือบทุกธนาคาร
    หลังจาก 3 ปี ดอกเบี้ยเฉลี่ย จะแพงกว่าช่วง 3 ปี แรก ประมาณ 1.5-2% ต่อปี
    เลยนะครับ แต่การ refinance จะเสียค่าธรรมเนียมจำนองใหม่ 1% ของยอดกู้ และค่าธรรมเนียม
    อื่นนิดหน่อย

    เพราะฉนั้นเมื่อครบ 3 ปี ให้หา refinance ดีกว่าครับ หรือถึงตอนนั้น แจ้งธนาคารเดิมว่าจะ refinance ธนาคารเดิมอาจให้ดอกเบี้ย rate ใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายก็เป็นได้ครับ
    เพราะธนาคารก็ไม่อยากเสียลูกค้า

    By: PheakEngi
    Since: วันลอยกระทง 55 19:14:59

  3. admin Post author

    ขอบคุณคุณ โฮกป๊ก และคุณ heakEngi มากเลยครับ

    By: Thunke8
    Since: 29 พ.ย. 55 08:41:19

Leave a Reply