กำลังจะทาสีอาทิตย์หน้านี้ เป็นสีทาภายนอกครับ ช่างก็แนะนำสี ดูลักซ์ เวเธ่อร์ชีลด์ ไฮโดรเฟรช พอผมไปปรึกษาร้านสีก็บอกว่า ดูลักซ์ เวเธ่อร์ชีลด์ อัลติม่า ก็พอแล้ว แถมยังเชียร์เบเยอร์ คูล ซูเปอร์การ์ด ไททาเนียม ถามมาหลายที่ เหมือนสีดูลักซ์ให้มาร์จิ้นกับร้านค้าน้อยกว่ายี่ห้ออื่นรึป่าว เลยไม่ค่อยเชียร์กันเลย
เลยอยากขอความรู้ว่า ดูลักซ์ เวเธ่อร์ชีลด์ ไฮโดรเฟรช นี่ดีจริงรึป่าวครับ จำเป็นต้องใช้เกรดสีระดับนี้หรือป่าวครับ ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ
By: toey the red
Since: 9 ธ.ค. 55 09:42:06
สีทาภายในไม่จำเป็นต้องเลือกสีแพงมากก็ได้
สีถูกสีแพง ต่างกันที่เนื้อสี สีแพงทา 2 รอบขึ้นสีสวยงาม
สีถูกทา 3 รอบยังรู้สึกว่าไม่เห็นสี
By: ล้นฟ้า
Since: 9 ธ.ค. 55 10:02:46
ขอโทษครับลืมบอกไปเป็นสีทาภายนอกครับ แก้ไขกระทู้แล้ว
By: toey the red
Since: 9 ธ.ค. 55 10:12:59
ในยี่ห้อ ICI ของ AkzoNoble (Thailand) Ltd. มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ เฉพาะสีน้ำอะครีลิคภายนอก เรียงลำดับคุณภาพและราคาดังนี้
– Dulux WeatherShield HydroFresh (ฟิล์มสีเนียน/เงาเล็กน้อย)
– Dulux WeatherShield Ultima 901 (ฟิล์มสีกึ่งเงา-กึ่งด้าน)
– Dulux WeatherShield Ultima 910 (ฟิล์มสีเนียน)
– Dulux PentaliteShield (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– Dulux Pentalite Extra Cover (ฟิล์มเนียน)
– Dulux Insprie Exterior (ฟิล์มสีด้าน), มยุราเป็น Presenter
ในยี่ห้อ Beger ของ บจก.เบเยอร์ หรือ หจก.ทวีรุ่ง มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ เฉพาะสีน้ำอะครีลิคภายนอก เรียงลำดับคุณภาพและราคาดังนี้
– BegerShield UV Shield (ฟิล์มสีกึ่งเงา)…มีขนาดบรรจุ 15ลิตร !
– BegerShield Diamond/ขายตามModernTrade (มีทั้งเนียนและกึ่งเงา)
– BegerShield WeatherGuard/ขายตามร้านทั่วไปและงานโครงการ (มีทั้งเนียนและกึ่งเงา)
– Beger SynotexShield (มีทั้งเนียนและกึ่งเงา)…รุ่นนี้ไม่ส่งเสริมการขายแล้ว
– BegerCool Super Ceramic Shield (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– Beger Nano Pro Shield (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– BegerCool All Seasons (ฟิล์มสีด้าน)
– Beger Delight Titanium Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
– Beger Nano Pro Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
ผลิตภัณฑ์ข้างต้นของ 2 ยี่ห้อนี้ เฉพาะสีน้ำอะครีลิคภายนอก (ยังมีสียืดหยุ่นและสีเกรดต่ำไม่มี มอก. อีก, ส่วนยี่ห้อ ICI ก็มรสีเกรดกลาง และเกรดธรรมดาด้วย แต่อยู่ในยี่ห้อ SuperCote และ Maxilite) แค่นี้ก็คงทำให้ จขกท.เริ่มสับสนบ้างแล้ว
ส่วนสีรุ่นที่ จขกท. สอบถามมา "BegerCool SuperGuard Titanium" มานั้น เป็นสีตระกูล BegerCool แต่รุ่นนี้ทำมาเฉพาะร้านค้าใหญ่ร้านหนึ่ง ที่มีหลายสาขา (แต่จะไม่มีวางตาม Modern Trade หรือร้านทั่วไป) น่าจะอยู่ในเกณฑ์สีเกรด High Quality เท่านั้น, ไม่น่าถึงเกรด Premium Grade
แนะนำว่า ซื้อรุ่นที่มีจำหน่ายทั่วๆไป น่าจะดีกว่า, ที่ทางร้านนี้แนะนำรุ่นนี้(ที่เขาขายอยู่เจ้าเดียว) แน่นอนว่า Margin สูงกว่าแน่นนอน เพราะเช็คราคากับร้านอื่นไม่ได้
อ้อ…เข้าใจว่าทาง จขกท. คงจะทาบ้าน/อาคารเก่า, จึงอยากให้ศึกษาเรื่องการเตรียมพื้นผิว,การกำจัดเชื้อรา,การซ่อมรอยแตกร้าว และระบบสี(สีรองพื้นปูนเก่าและสีทับหน้า) ให้ชัดเจน โดยเริ่มต้นจากบนปกหลังของ Catalogue ของผลิตภัณฑ์(รุ่นนั้นๆ)ก่อน แล้วไปศึกษาต่อใน Web Site ของผู้ผลิต/จำหน่ายต่อ
ในความคิดส่วนตัว การซ่อมสีอาคารเก่า การเตรียมพื้นผิวสำคัญกว่ายี่ห้อ/รุ่นสีเสียอีก
By: siriwatch /at/ captaincoating.com
Since: 9 ธ.ค. 55 11:06:45
อนึ่งใคร่อยากแนะนำทางเลือกสีอีก 2 ยี่ห้อ เผื่อพิจารณาเป็นทางเลือกทั้งราคาและคุณภาพ (โดยเรียงลำดับตามราคาและคุณภาพ) ดังนี้
TOA
– SuperShield Titanium (มีฟิล์มสีเนียนและกึ่งเงาให้เลือกใช้)
– ExtraShield (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– Shield 1 Nano Silicone (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– Shield 1 Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
– 4 Seasons Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
– SuperTech Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
– SuperMatex Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
CAPTAIN
– Super Silicone (ฟิล์มสีเนียน/เงาเล็กน้อย)
– ParaShield Oxylink (มีฟิล์มสีเนียนและกึ่งเงาให้เลือกใช้)
– RePaint TriShield (ฟิล์มสีเงาเล็กน้อย)….สีสำหรับอาคารเก่าโดยเฉพาะ ฟิล์มสีหายใจ(ระบายความชื้น)ได้
– Studio (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– Shield Plus Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
– Longlife Waxy Shield (ฟิล์มสีกึ่งเงา)
– Longlife Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
– WellTech Ext. (ฟิล์มสีด้าน)
การเลือกใช้สียี่ห้อ/รุ่นใด หากศึกษาเพียงเคร่าๆ จะดู(ดี)เหมือนกันหรือคล้ายกันไปหมด, แต่หากศึกษาให้ละเอียด จะพบคุณสมบัติพิเศษเฉพาะที่มีอยู่ในสีรุ่นนั้นด้วย
By: siriwatch /at/ captaincoating.com
Since: 9 ธ.ค. 55 11:33:31
แนะนำว่าให้เดินดูตามร้าน hp hw ยี่ห้อไหนจัดโปรโมชั่น
ก็เลือกอันนั้น
คุณภาพสีไม่ต่างกันหรอกถ้าระดับเดียวกัน
By: (ป๊อก-แปด)
Since: 9 ธ.ค. 55 14:23:03
ขอบคุณ คห. 3-4 ..ตอนนี้กำลังทาสีบ้านเก่าอยู่พอดี
By: monchen
Since: 9 ธ.ค. 55 20:19:56
ขอเล่าให้ฟังอย่างงี้ครับ
งานขายสีเป็นงานที่จมทุน การที่จะขายสีได้แต่ละเกรดต้องทำสต็อก 3-4 ล้านบาท (หมายถึงเก็บทุกเบอร์ ให้เพียงพอแก่การขายหมุนเวียน)
ร้านขายสีก็มักจะทำสต็อกอยู่ประมาณ 3-4 เกรด(ดูเกรดได้จาก คห.3,4) 3-4 ยี่ห้อ สูง-กลาง-ต่ำ-ต่ำมาก ก็ต้องทำสต็อก 15-30ล้านเพื่อที่จะพอมีสินค้าหมุนเวียน ส่วนสีเกรดพรีเมี่ยมมักจะไม่สต็อก (ยกเว้นว่าจะมี ผรม.ที่ใช้กันประจำ) จะใช้วิธีสั่งเอา สั่งก็ไม่นานหรอกครับ
ที่นี้ผมเข้าใจว่า จขกท. อยากได้สีเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งทางร้านไม่เชียร์ เพราะไม่มีสต็อก ถ้าจะสั่งมาให้ จขกท. เดี๋ยวใช้ไปแล้วไม่พอให้สั่งมาให้อีก ทีนี้ละด่วน มว๊าก ช่างรออยู่ (ชั้นรอไม่ได้) จึงเชียร์สินค้าที่ตัวเองมี ใช้ไปแล้วไม่พอ มาเมื่อไรก็มี บางร้านใจดีใช้เหลือ (ถ้ายังไม่เปิด) คืนได้
ส่วนเรื่องการเชียร์สีเบเย่อร์ ผมเดาเอานะ อิ อิ อิ สีเบเย่อร์นี่ ดังมาจากยูรีเทน B-52 ซึ่งของเค้าดังมาก ร้านขายสีแทบทุกร้านต้องมีขาย เพิ่งจะเข้ามาทำตลาดสีทาบ้านได้ไม่นาน ร้านค้ายังไม่เก็บสต็อกกันมากเท่าไร ราคายังไม่ฟันกัน ขายแล้วมีกำไร จึงเชียร์ลูกค้า
ขออนุญาตแนะนำ จขกท. อย่างนี้นะครับ สีที่เราเห็นเค้าโฆษณาเนี่ย เค้าทำเพื่อสร้างแบรนด์ (เดาเอา) ถ้าเราใช้เพียงเพื่อทาบ้านเราเอง ใช้สีเกรดดีก็พอ เหมือนที่ชาวบ้านเค้าใช้กันทั่วไป ขาดเหลือหาซื้อมาเพิ่มได้ทันที งานสำเร็จสมใจหมายสบาย ฉึ ก ฉึ ก แปดปีสิบปีสีเก่าแล้ว เราก็ควรปรับปรุงทาสีบ้านใหม่ รีโนเว็ท บ้านอีกครั้งนึง ผมว่างั้นนะ ^^
By: ล้นฟ้า
Since: 9 ธ.ค. 55 20:34:24
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
By: toey the red
Since: 9 ธ.ค. 55 21:23:43