อยากจะสอบถามว่า เลือกรุ่นไหนดี น้ำยาแอร์ R410 หรือ R22 3 Replies รุ่นไหนดี ไม่เข้าใจว่า ตัวไหน สำหรับอะไร น้ำยาแอร์ R410 หรือ R22
admin Post authorAugust 29, 2013 at 8:20 am จากนี้ไป เครื่องปรับอากาศทุกเครื่องที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่ใช้สารทำความเย็น R-410 เท่านั้น Log in to Reply ↓
admin Post authorFebruary 14, 2023 at 2:09 am เมื่อเลือกรุ่นแอร์ คุณควรเลือกรุ่นที่ใช้น้ำยา R410A แทน R22 เนื่องจาก R22 เป็นน้ำยาที่ใช้ในอดีตและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับสูง R410A เป็นน้ำยาที่ใช้ในรุ่นแอร์ใหม่ และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า R22 ดังนั้น คุณควรเลือกรุ่นแอร์ที่ใช้น้ำยา R410A เพื่อประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Log in to Reply ↓
admin Post authorFebruary 14, 2023 at 2:12 am สารทำความเย็น R410a เป็นส่วนผสมของ HFC-35 และ HFC-120 ในอัตราส่วน 1:1 R410a เป็นสารทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศที่ปราศจากคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อชั้นโอโซน และมีประสิทธิภาพมากกว่าสารทำความเย็น R-22 แบบดั้งเดิมถึง 10% ในอุณหภูมิที่อบอุ่น ทำให้การใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่า R410a เป็นทางเลือกที่ประหยัดพลังงานและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ 25-35 องศาเซลเซียส เช่น ประเทศไทย นอกจากนี้ เครื่องปรับอากาศที่ใช้ R410a ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็น R-22 เนื่องจากการเลิกใช้สารทำความเย็น R-22 ในประเทศไทย ทำให้ R410a ถูกนำมาใช้ทดแทนเรียบร้อยแล้ว Log in to Reply ↓
จากนี้ไป เครื่องปรับอากาศทุกเครื่องที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะที่ใช้สารทำความเย็น R-410 เท่านั้น
เมื่อเลือกรุ่นแอร์ คุณควรเลือกรุ่นที่ใช้น้ำยา R410A แทน R22 เนื่องจาก R22 เป็นน้ำยาที่ใช้ในอดีตและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับสูง
R410A เป็นน้ำยาที่ใช้ในรุ่นแอร์ใหม่ และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า R22
ดังนั้น คุณควรเลือกรุ่นแอร์ที่ใช้น้ำยา R410A เพื่อประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า
สารทำความเย็น R410a เป็นส่วนผสมของ HFC-35 และ HFC-120 ในอัตราส่วน 1:1 R410a เป็นสารทำความเย็นสำหรับเครื่องปรับอากาศที่ปราศจากคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อชั้นโอโซน และมีประสิทธิภาพมากกว่าสารทำความเย็น R-22 แบบดั้งเดิมถึง 10% ในอุณหภูมิที่อบอุ่น ทำให้การใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่า R410a เป็นทางเลือกที่ประหยัดพลังงานและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ 25-35 องศาเซลเซียส เช่น ประเทศไทย นอกจากนี้ เครื่องปรับอากาศที่ใช้ R410a ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็น R-22
เนื่องจากการเลิกใช้สารทำความเย็น R-22 ในประเทศไทย ทำให้ R410a ถูกนำมาใช้ทดแทนเรียบร้อยแล้ว